น้ำนมเหลือง

คุณแม่ทุกคนทราบกันดีว่า นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก ลูกรักควรได้รับนมแม่อย่างเดียวจนถึงอายุ 6 เดือน คุณประโยชน์ของน้ำนมแม่มีมากมายมหาศาล คุณแม่หลายๆคนอาจไม่เคยทราบมาก่อนว่า น้ำนมแม่นั้นแบ่งออกเป็น สามระยะคือ 1.ระยะหัวน้ำนม 2.ระยะน้ำนมปรับเปลี่ยนและ 3. ระยะน้ำนมแม่ ซึ่งน้ำนมแม่ทั้งสามระยะนี้ มีคุณค่าทางสารอาหารที่แตกต่างกัน ส่วนที่สำคัญที่สุดของน้ำนมแม่ คือ ระยะหัวน้ำนม (colostrums) ลูกรักควรได้รับหัวน้ำนมหรือวัคซีนหยดแรกของชีวิต เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

น้ำนมเหลือง (colostrums) เป็นวัคซีนธรรมชาติหยดแรกสำหรับชีวิตลูกได้จริงหรือ ?

หัวน้ำนม (colostrums) มีสีเหลืองข้น อาจเรียกอีกอย่างว่า น้ำนมเหลือง  ร่างกายของแม่จะสร้างและหลั่งน้ำนมเหลืองออกมา 1 – 7 วันหลังคลอด จะมาเร็วหากได้รับการกระตุ้นที่ดี น้ำเหลืองมีปริมาณไม่มาก 10 – 40 ซีซีต่อวันเท่านั้น  คุณประโยชน์ของน้ำนมเหลืองเปรียบเสมือนวัคซีนด้านภูมิคุ้มกัน เพราะมีสารภูมิคุ้มกันในปริมาณสูง ( secretary IgA ) ช่วยลดโอกาสการติดเชื้อในทารกแรกเกิด เพิ่มแล็กโตบาซิลลัสซึ่งเป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ในลำไส้ของเด็ก และลดปริมาณแบคทีเรียอีโคไลซึ่งมีอันตรายต่อทารกให้ลดลงได้ น้ำนมเหลือง ยังมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ ทำให้ขี้เทาถูกขับถ่ายสะดวกช่วยลดปัญหาตัวเหลืองในเด็กแรกเกิด นับเป็นความมหัศจจรย์ที่ร่างกายแม่สรรค์สร้างเพื่อลูกน้อยจริงๆค่ะ

น้ำนมเหลือง (colostrums)  มีสารอาหารสำคัญอะไรบ้าง

น้ำนมเหลือง อุดมไปด้วยสารอาหารธรรมชาติได้แก่ โปรตีน สารระบบภูมิคุ้มกัน เกลือแร่ วิตามิน โดยเฉพาะ วิตามินเอ วิตามินเค และสารช่วยการเจริญเติบโตของสมองและร่างกายทารก  มีปริมาณของไขมันและน้ำตาลต่ำกว่านมระยะหลัง ปริมาณโปรตีนที่สูงส่วนใหญ่ในน้ำนมเหลืองเป็นสารภูมิคุ้มกันอิมมูโนโกบูลินที่คอยดักจับสารแปลกปลอมเข้ามาในร่างกาย ด้วยเหตุนี้เอง กุมารแพทย์ทั่วโลกจึงสนับสนุนให้ทารกแรกเกิดทุกคนได้ดื่มน้ำนมเหลืองจากอกแม่ เพื่อสร้างเสริมสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง

หากลูกพลาดไม่ได้ดื่มน้ำนมเหลือง ทำอย่างไร ?

คุณแม่หลายคนพลาดโอกาสสำคัญอย่างไม่ได้ตั้งใจ เพราะไม่สามารถให้นมแม่แก่ลูกได้ ด้วยปัญหาสุขภาพ หรือเหตุผลบางประการ คุณแม่ควรมีทางเลือกที่ดีให้กับลูกรัก ด้วยการพิถีพิถันเลือกน้ำนมหยดแรกของลูก ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับนมแม่มากที่สุด น้ำนมจากอกแม่เป็นสารอาหารธรรมชาติและมีสารอาหารครบถ้วน ย่อยง่ายท้องไม่ผูก ดังนั้นคุณแม่ต้องพิจารณานมชนิดที่มีความเป็นธรรมชาติสูงและมีคุณค่าทางสารอาหารครบถ้วน ย่อยง่ายท้องไม่ผูกด้วยเช่นกัน

ทดแทนน้ำนมแม่อย่างไรไม่เสียดุลย์ 

ในโลกนี้ไม่มีนมใดที่ทดแทนนมแม่ได้ แต่การเลือกนมที่ใกล้เคียงกับนมแม่มากที่สุดคือสิ่งที่คุณแม่จำเป็นต้องเลือก นมที่เหมาะกับทารกต้อง มีสารอาหารครบครัน ย่อยง่ายสบายท้อง นมจะย่อยง่ายหรือย่อยยากขึ้นอยู่กับโมเลกุลโปรตีนของนมชนิดนั้นๆ โปรตีนที่ดีสำหรับทารก คือ โปรตีนCPP หรือ Casein Phosphopeptides ซึ่งเป็นโปรตีนที่พบมากในนมแพะและนมแม่โดยธรรมชาติ  โปรตีนCPP มีคุณสมบัติพิเศษ คือ นุ่ม ย่อยง่าย ช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหารสำคัญ เช่น แคลเซียม เหล็ก สังกะสี และแมกนีเซียม นมสำหรับลูกรักที่คุณแม่ต้องพิจารณาเพิ่ม คือ ต้องเป็นนมที่มีนิวคลีโอไทด์ตามธรรมชาติ (Natural Nucleotide) ในนมสัตว์บางชนิดมีนิวคลีโอไทด์ตามธรรมชาติ 5 ชนิดที่คล้ายคลึงกับนมแม่ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน และลดการเกิดการแพ้อาหาร มีสารโพลีเอมีนส์ ช่วยลดปฎิกิริยาของการแพ้อาหารมี โกรทแฟคเตอร์ ชนิดไอจีเอฟวัน (IGF-1) และทีจีเอฟ เบต้า (TGF- β) ช่วยให้เกิดการพัฒนาของระบบลำไส้ และการย่อยสมบูรณ์ พร้อมทั้งเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ครบถ้วน สารนิวคลีโอไทด์จะทำหน้าที่ในการป้องกันเชื้อแบคทีเรียไวรัส และปรสิตในทางเดินอาหาร ช่วยให้แบคทีเรียมีประโยชน์ชนิดบิฟิโดแบคทีเรีย (Bifidobacteria) ในลำไส้ของทารกเพิ่มขึ้น แต่จะกำจัดแบคทีเรียแกรมลบที่ก่อให้เกิดโรคชนิดเอนเทอโรแบคทีเรีย (Enterobacteria) ไขมันจากนมก็มีส่วนสำคัญช่วยให้ลูกรักมีน้ำหนักตัวเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน ไขมันในนมที่เหมาะกับทารกคือ ไขมันชนิด MCT Oil เพราะย่อยง่าย ท้องไม่ผูก ร่างกายสามารถย่อยและดูดซึมได้ดีนำไปใช้ได้รวดเร็ว ส่งผลให้ลูกรักมีน้ำหนักตัวดีไม่ตกเกณฑ์อีกด้วย

น้ำนมแม่นับเป็นของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดในโลกสำหรับลูก เมื่อมีโอกาสคุณแม่อย่างคุณไม่ควรพลาดโอกาสทองที่จะมอบของขวัญชิ้นนี้ให้กับคนที่คุณรักนะคะ

เรียบเรียงโดย  : Mamaexpert Editorial Team

ขอบคุณข้อมูล : www.dgsmartmom.com