ตกขาว

ตกขาวคืออะไร?

ตกขาวผิดปกติ

1. การใช้ยาแก้อักเสบหรือสเตียรอยด์
2. การติดเชื้อแบคทีเรีย Bacterial Vaginosis ซึ่งพบได้บ่อยในหญิงตั้งครรภ์
3. การใช้ยาคุมกำเนิด
4. เบาหวาน มะเร็งปากมดลูก
5. การติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองใน เทียม(Chlamydia )หรือ หนองในแท้( Gonorrhea)
6. การทำความสะอาดด้วยสบู่ที่เป็นด่างมากเกินไป
7. การติดเชื้อรา ติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน ปีกมดลูก รังไข่
8. การติดเชื้อ Trichomoniasis จากการมีเพศสัมพันธ์
9. การอักเสบของช่องคลอด
10. การทำออรัลเซ็กส์ โดยไม่ทำความสะอาดช่องปาก
11. การสวมใส่กางเกงในรัดแน่น อากาศไม่ถ่ายเท
12. การพักผ่อนไม่เพี่ยงพอนอนดึก ร่างกายอ่อนเเอ เชื้อประจำถิ่นบริเวณช่องคลอดทำงานได้น้อยลง

สีและลักษณะตกขาวที่อาจพบได้

1. ปนเลือดหรือมีสีน้ำตาล ประจำเดือนมาผิดปกติไม่ตรงรอบ หรือที่พบได้ไม่บ่อยคือเกิดจากมะเร็งโพรงมดลูกหรือมะเร็งปากมดลูก อาจมีอาการปวดท้องน้อยหรือมีเลือดออกผิดปกติร่วมด้วย
2. ขุ่นมีสีเหลืองอาจมีการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เช่น Gonorrhea เลือดออกระหว่างรอบเดือน หรือมีอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
3. สีเหลือง เขียว มีฟองปน อาจเกิดจากการติดเชื้อปรสิต Trichomoniasis มักมีอาการปวดและคันเวลาปัสสาวะร่วมด้วย
4. สีชมพู พบได้ในหญิงหลังคลอด เนื่องจากการลอกของเยื่อบุโพรงมดลูก
5. สีขาว หนาเป็นก้อน เกิดจากการติดเชื้อราจนมีอาการบวม แดง คันบริเวณอวัยวะเพศ เจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์
6. สีขาว เทา หรือเหลือง กลิ่นคาวเหมือนปลา  เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย จะมีอาการคัน แสบ แดง และบวมบริเวณอวัยวะเพศ

เมื่อทราบสาเหตุของการทำให้ตกขาวของคุณผิดปกติแล้ว คุณผู้หญิงควรหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพช่องคลอดให้มากขึ้น สำหรับวิธีรักษา แนะนำให้พบสูตินรีแพทย์ เพื่อแยกโรคก่อน เพื่อรับยาที่ถูกต้องกับเชื้อที่ตรวจพบ

บทความแนะนำเพิ่มเติม

1. ตกขาวขณะตั้งครรภ์ อันตรายรือไม่

2. ตกขาวผิดปกติ ตกขาวมีกลิ่น ตกขาวสีน้ำตาลแก้ไขอย่างไรดี?

3. ลดอาการปวดประจำเดือนด้วยกล้วยหอม

เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team