วัคซีนเสริมป้องกันโรคอีสุกอีใส ต้องฉีดไหม ???

09 July 2015
87222 view

วัคซีนเสริมป้องกันโรคอีสุกอีใส

อีสุกอีใส ( Chickenpox ) หลายๆเรียกสั้นๆว่า สุกใส เป็นโรคที่ไม่มีใครอยากพบเจอเลยเพราะมีอาการน่ากลัวโดยเฉพาะรอยแผลเป็นจากตุ่มพุพอง แต่โดยธรรมชาติแล้วแต่ละคนต้องได้รับเชื้อนี้อย่างน้อย 1 ครั้ง เมื่อเป็นแล้ว โอกาสเกิดซ้ำน้อยมากๆ เพราะร่างกายได้มีภูมิคุ้มกันแล้ว อีสุกอีใส เกิดจากเชื้อ Varicella Zoster Virvs  ทำให้เกิดผื่นลักษณะพุพองที่ผิวหนัง และน้ำจากตุ่มพองนั้นเมื่อนำไปตรวจจะพบเชื้อจำนวนมากซึ่งสามารถติดผู้อื่นได้ หลายคนสงสัยว่า มีวัคซีนป้องกันอยู่จะกลัวอะไร แต่อีกหลายคนกลับมองว่า เป็นวัคซีนสิ้นเปลืองฉีดแล้วก็ไม่ 100%  ความเป็นจริงคุณแม่จำเป็นต้องจ่ายค่าวัคซีนตัวนี้มากน้อยแค่ไหนกัน เรามาทำความรู้จักกับวัคซีนอีสุกอีใสให้มากขึ้นกันค่ะ

วัคซีนเสริมป้องกันโรคอีสุกอีใสคืออะไร

เป็นวัคซีนผงแห้งที่เตรียมมาจากเชื้อไวรัสอีสุกอีใสซึ่งยังมีชีวิตแต่ทำให้อ่อนฤทธิ์ลง ไม่ก่อโรคอีสุกอีใสแต่สร้างภูมิต้ายทานต่อโรคได้ดี หลังจากฉีดวัคซีนแล้วผู้รับวัคซีนบางคนยังอาจเป็นโรคอีสุกอีใสได้อีก แต่จำนวนเม็ดผื่นจะน้อยลง และไม่มีไข้และอาการทั้งหมดจะทุเลาลงเร็วกว่าผู้ที่ที่ไม่เคยได้รับวัคซีน วัคซีนมีประสิทธิภาพป้องกันการเกิดโรคอีสุกอีใสโดยรวมได้ร้อยละ 70-90 และป้องกันการเกิดโรครุนแรงได้ร้อยละ 95 ผู้ที่ได้รับวัคซีนมีโอกาสเป็นโรคงูสวัดน้อยกว่าผู้ที่ติดเชื้อตามธรรมชาติ ภูมิคุ้มกันหลังได้รับวัคซีนจะอยู่ได้นาน 10-20 ปีหรืออาจตลอดชีวิต

ใครบ้างที่ควรฉีดวัคซีนเสริมป้องกันโรคอีสุกอีใส

  1. ทุกวัยสามารถเข้ารับวัคซีนป้องกันอีสุกอีใสได้เลย เแต่ทางการแพทย์เห้นว่า การให้ในเด้กที่มีอายุ 10 ปีขึ้นและไม่เคยเป็นอีสุกอีใสหรืองูสวัดมาก่อน ไปจะให้ผลคุ้มค่ากว่าเพราะในช่วงอายุดังกล่าวพบว่ามักมีอาการรุนแรงกว่าช่วงวัยเด็กเล็ก
  2. ผู้ป่วยเด็กที่เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวควรฉีดวัคซีนสุกใสในช่วงที่มีสุขภาพแข็งแรง
  3. ในผู้ติดเชื้อเอชไอวี แนะนำให้ฉีดวัคซีนอีสุกอีใสในช่วงที่มีสุขภาพทั่วไปดี

วัคซีนเสริมป้องกันโรคอีสุกอีใสฉีดอย่างไร

ใช้ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง การฉีดแบ่งตามความเหมาะสมของช่วงอายุดังนี้

1.เริ่มฉีดตั้งแต่อายุ 1 ปีขึ้นไป โดยให้วัคซีน 2 เข็ม โดยเข็มที่ 1 ให้ตอนอายุ 12 – 18 เดือน และเข็มที่ 2 ให้ตอนอายุ 4-6 ปี (โดยห่างกันจากเข็มแรก 4-6 ปี) โดยการฉีดเข้าใต้ผิวหนัง

2.ช่วงอายุ 13 ปีขึ้นไปฉีด 2 เข็ม โดยเข็มที่ 1 ต้องห่างจากเข็มที่2 เป็นเวลา 4 – 8 สัปดาห์

3.กุมารแพทย์บางโรงพยาบาลแนะนำให้ฉีกช่วงอายุ 10 ปีขึ้นไปเพื่อให้มีโอกาสติดเชื้อโดยธรรมชาติในช่วงอายุน้อย ๆ ซึ่งมักมีอาการไม่รุนแรงก่อน และเพื่อให้แน่ใจว่าจะมีภูมิคุ้มกันได้ตลอดชีวิต

วัคซีนเสริมป้องกันโรคอีสุกอีใสมีผลข้างเคียงอย่างไร

1. อาการเจ็บปวดเฉพาะที่
2. มีผื่นขึ้นหรือตุ่มใสๆคล้ายๆกับที่พบในคนที่เป็นไข้อีสุกอีใส ไม่มาก พบได้หลังฉีกวัตซีน 5 – 10 วันไปแล้ว
3. มีไข้

ใครบ้างที่ไม่สามารถฉีดวัคซีนเสริมป้องกันโรคอีสุกอีใส

1.ห้ามฉีดในคุณแม่ตั้งครรภ์ ส่งผลต่อความพิการของทารกในครรภ์ได้  ควรฉีกก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 3 เดือน
2.ห้ามฉีกในคุณแม่ให้นมบุตร
3.ห้ามฉีดขณะที่มีไข้สูงหรือเจ็บป่วยเฉียบพลัน
4.ห้ามฉีดในคนที่แพ้ยานีโอมัยซิน
5.ห้ามฉีดในผู้ป่วยที่ได้รับการให้เลือดหรือภัณฑ์ของเลือด และอิมมูโนโกลบุลิน ต้องแจ้งแพทย์เพื่อพิจารณาความเหมาะสมเสียก่อน

วัคซีนเสริมป้องกันโรคอีสุกอีใสราคาเท่าไหร่

ราคาวัคซีนอีสุกอีใส มีตั้งแต่ 800 บาทขึ้นไป แล้วแต่ยี่ห้อที่แต่ละโรงพยาบาลเลือกใช้ โรงพยาบาลรัฐอาจเสียเงิน ประมาณ 1000บาท  เอกชนมีตั้งแต่ 1300 – 2000 บาท

วัคซีนแต่ละชนิดมีข้อดีหากได้รับอย่างถูกต้องและถูกเวลา ก่อนฉีดวัคซีนทุกชนิดควรแจ้งประวัติแพทย์อย่างละเอียด โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์เพื่อลดปัญหาการแพ้วัคซีน และสุญเงินโดยเปล่าประโยชน์เนื่องจากเลือกช่วงเวลาของการฉีดไม่เหมาะสม

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่

1. วัคซีนในเด็กมีอะไรบ้าง

2. อาการข้างเคียงหลังฉีดวัคซีน

3. วัคซีนเสริม

เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team

อ้างอิง

  1. วัคซีน...น่ารู้.สมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย.เข้าถึงได้จาก file:///C:/Users/OK%20COM/Downloads/[jCMS]-371_pidst_20100423101913_filekhow.pdf. [ค้นคว้าเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2560].
  2. สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทยร่วมกับกระทรวงสาธารณะสุข.เข้าถึงได้จาก http://pidst.or.th/userfiles/64_%20การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันในประเทศไทย.pdf. [ค้นคว้าเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2560].