โรคในฤดูฝน

.

.

ในช่วงหน้าฝน เป็นเวลาเดียวกับที่ลูก ๆ ต้องไปโรงเรียน และผู้ใหญ่ก็ต้องออกไปทำงาน ทำให้เสี่ยงโดนฝน จึงมีโอกาสเจ็บป่วยได้บ่อย ๆ ซึ่งอากาศชื้น ๆ แฉะ ๆ แบบนี้ เป็นสาเหตุทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดี ดังนั้นมาดูสิว่า โรคในฤดูฝนนี้ มีโรคไหนบ้างที่ต้องเฝ้าระวัง

7 โรคในฤดูฝน ที่ต้องเฝ้าระวัง

โรคที่มากับหน้าฝนนั้น มีหลายกลุ่มโรคทั้งโรคระบบทางเดินหลายใจ โรคระบบทางเดินอาหาร โรคที่เกิดจากยุงและสัตว์ต่าง ๆ โรคติดเชื้อทางผิวหนัง เป็นต้น เนื่องจากเป็นโรคติดเชื้อที่พบได้บ่อย และสามารถแพร่กระจายได้ง่าย ดังนั้นมาทำความรู้จักกับโรคเหล่านี้กัน เพื่อหาทางป้องกัน 

1. โรคไข้หวัดใหญ่ 

โรคไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่พบได้ตลอดปี และเป็นโรคในฤดูฝนที่พบได้บ่อย เกิดจากเชื้อไวรัสที่ชื่อ Influenza สามารถติดต่อกันได้จากการไอหรือจาม หรือสัมผัสกับผู้ที่ติดเชื้อ อาการของโรคไข้หวัดใหญ่ คือมีไข้สูง ปวดศีรษะ คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ จาม และรู้สึกปวดเมื่อยตามร่างกาย โดยในกลุ่มเสี่ยงมีโอกาสที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ จึงควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี 

2. โรคปอดอักเสบ

โรคปอดอักเสบ หรือโรคปอดบวม (Pneumonia) เป็นโรคในฤดูฝนที่พบผู้ป่วยได้บ่อย โดยผู้ที่เป็นโรคนี้มักมีภูมิต้านทานต่ำ และผู้ป่วยอาจมีอาการของโรคอื่นมาแล้ว เช่นเป็นหวัด ไข้หวัดใหญ่ เมื่อเป็นปอดอักเสบอาจมีภาวะเสี่ยงที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆตามมา จนทำให้เสียชีวิตได้ ดังนั้นถ้าไม่อยากเป็นโรคปอดบวมต้องหมั่นดูแลสุขภาพให้แข็งแรง รักษาโรคไข้หวัดต่าง ๆ ให้หายดี สำหรับเด็กเล็กควรดูแลอย่างใกล้ชิด

3. โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน 

สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน เกิดจากการดื่มน้ำและกินอาหารที่ไม่สะอาด ซึ่งมีการปะปนของเชื้อจุลินทรีย์และแบคทีเรีย จนทำให้เกิดโรคในทางเดินอาหารและสำไส้ ดังนั้นเพื่อการป้องกันไม่ให้เกิดโรคนี้ วรล้างมือให้สะอาดก่อนปรุงและก่อนกินอาหารทุกครั้ง หรือกินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ๆ รวมทั้งดื่มน้ำต้มสุกหรือน้ำที่มาจากแหล่งที่มีเครื่องหมายรับรองคุณภาพ (อย.) เป็นต้น 

4 . โรคไข้เลือดออก

โรคในฤดูฝน ที่มียุงเป็นพาหะ โดยเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี แม้ว่าผู้ป่วยอาจมีอาการไม่รุนแรง แต่อาจเสียชีวิตได้ ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ทันถ่วงที โดยอาการทั่วไปนั้นคล้ายไข้หวัด โรคไข้เลือดออกเป็นโรคที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นและเสียชีวิตในทุกปี ดังนั้นควรป้องกันไม่ให้ถูกยุงกัด ด้วยการใส่เสื้อและกางเกงขายาว ฉีดสเปรย์หรือทายากันยุง ดูแลบ้านให้ปลอดโปร่ง ไม่ให้มีแหล่งน้ำขัง

5. โรคฉี่หนู

โรคฉี่หนู ถือเป็นโรคในฤดูฝน โดยมีสัตว์ฟันแทะ เช่นหนูเป็นพาหะ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่อาจปะปนอยู่ในดินโคลนชื้นแฉะที่มีน้ำท่วมขัง ซึ่งถ้าไปแช่อยู่ในน้ำนาน ๆ เชื้อโรคก็จะไชเข้าตามบาดแผล เยื่อบุตา เยื่อบุปาก เยื่อบุจมูกได้ ดังนั้นเมื่อจำเป็นต้องเดินย่ำไปในที่มีน้ำขัง ควรสวมใส่รองเท้าบูท เพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย

6. โรคมือ เท้า ปาก

โรคที่พบบ่อยในเด็กเล็ก และเป็นโรคในฤดูฝน อย่างโรคมือ เท้า ปาก ซึ่งเกิดได้จากการสัมผัสเชื้อโรคโดยตรงจากผู้ติดเชื้อ เช่นจากน้ำมูก น้ำลาย หรือเกิดจากการสัมผัสทางอ้อม เช่นของเล่น อาการคือมีตุ่มขึ้นตามมือ เท้า ปาก ดังนั้นจึงควรป้องกันด้วยการล้างมือบ่อย ๆ และทำความสะอาดของเล่นและที่อยู่อาศัยเป็นประจำ

7. โรคตาแดง

ส่วนใหญ่ติดต่อจากการสัมผัสกับผู้ป่วยโรคตาแดง หรือเด็กที่ชอบขยี้ตาบ่อยๆ จนทำให้เกิดตาอักเสบ และติดเชื้อตามมา โรคตาแดงเป็นโรคที่ไม่รุนแรง รักษาด้วยวิธีหยอดยาเพื่อฆ่าเชื้อโรค ดังนั้นจึงควรไปพบแพทย์เมื่อตาแดง ไม่ควรหาซื้อยามาหยอดเอง

ดูแลตัวเองยังไงให้ห่างไกลโรค

หน้าฝนเป็นช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย และมีโรคที่มากับหน้าฝนหลายโรค จึงจำเป็นต้องดูแลตัวเองดังนี้

• กินผักผลไม้ที่มีวิตามินซีอย่างสม่ำเสมอ วิตามินซีช่วยป้องกันและช่วยลดอาการรุนแรงของโรคหวัดได้ ซึ่งผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ได้แก่ ฝรั่ง มะนาว ส้ม เป็นต้น
• ดื่มน้ำอุ่นเป็นประจำ ในช่วงที่ฝนตก อากาศหนาวเย็น การดื่มน้ำอุ่นทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น และยังช่วยต้านอาการอักเสบต่างๆเช่นป้องกันการเป็นหวัด ลดน้ำมูก และแก้เจ็บคอได้ ดังนั้นควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว 
• พักผ่อนให้เพียงพอ ควรนอนหลับพักผ่อนให้ได้อย่างน้อยวันละ8ชั่วโมง เพราะจะทำให้ร่างกายสดชื่น มีภูมิต้านทานโรค ไม่เป็นหวัดง่าย
• รักษาร่างกายให้อบอุ่นเสมอ เมื่อฝนตกควรพกร่ม ถ้าเปียกฝน ควรรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า และควรมีเสื้อกันหนาวไว้ใส่ในช่วงที่อากาศเย็น เพื่อช่วยป้องกันโรคปอดบวม
• กินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ๆ การกินอาหารที่ปรุงเสร็จใหม่ๆ จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารและลำไส้
• ไม่ย่ำในที่มีน้ำขัง น้ำขังสกปรกทำให้ติดเชื้อโรคได้ จึงควรใส่รองเท้าบูทเมื่อต้องแช่อยู่ในน้ำเป็นเวลานาน
• ระวังไม่ให้ยุงกัด เพื่อป้องกันไม่ให้ยุงกัด ควรทายากันยุง นอนกางมุง ไม่ไปอยู่ในที่มืดและอับชื้น

โรคในฤดูฝน มีมากมายหลายโรค เราจึงจำเป็นต้องหาทางป้องกันไม่ให้เกิดการเจ็บป่วยขึ้น แต่ถ้าไม่สบายแล้ว ก็จำเป็นต้องหาทางรักษาให้หายขาด เพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งสามารถทำอันตรายถึงแก่ชีวิต โดยเฉพาะในเด็กเล็ก

บทความแนะนำเพิ่มเติม

1. โรคติดต่อที่มากับหน้าฝน แม่ๆ รีบเช็กด่วนๆ !!!

2. RSV โรคระบาดในหน้าฝนแม่ๆ รู้กันหรือไม่???

3. เคล็ดลับสุดเวิร์ค ป้องกันลูกน้อยให้ห่างไกลจากไข้หวัด โรคฮิตในฤดูฝน

เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team