นมเป็นสารอาหารที่ทรงคุณค่า เป็นอาหารชนิดแรกที่ลูกได้ดื่มตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลก กรมอนามัยโลกรวมทั้งกุมารแพทย์จึงแนะนำให้ลูกดื่มนมแม่เพียงอย่างเดียว ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 เดือน และดื่มให้นานที่สุด อ๊ะ!!! สงสัยกันไหมคะว่าทำไมถึงให้ดื่มนมแม่นานที่สุด ถ้าสงสัยตาม Mamaexpert มาเลยค่ะ จะพาคุณแม่ไปไขความสงสัยพร้อมทั้งวิธีการเปลี่ยนนมในวันที่จำเป็น เปลี่ยนอย่างไรให้ถูกวิธีและให้ดีต่อลูก

5 เหตุผลที่เด็กแรกเกิด-6 เดือน ควรดื่มนมแม่อย่างเดียว

เชื่อกันว่าหลายคนคงสงสัยกันว่าทำไมต้องให้เด็กแรกเกิดดื่มนมแม่อย่างเดียว มาดูเหตุผลกันค่ะ

1. นมแม่มีสารอาหารสำคัญต่างๆ ครบถ้วน จากกระบวนการสร้างน้ำนมแบบ “อะโพไครน์” เช่น DHA วิตามิน A, B1, B2, B6, B12, C, D, E, K รวมทั้งแร่ธาตุต่างๆ เช่น เหล็ก แคลเซียม ไอโอดีน
2. นมแม่มีภูมิคุ้มกันโรค เพราะนมแม่ประกอบแอนติบอดีและโปรตีนต่างๆ ที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับลูกน้อย รวมทั้งสารต่อต้านอนุมูลอิสระ
3. นมแม่ช่วยให้ลูกน้อยขับถ่ายได้สะดวก ในนมแม่มีพรีไบโอติกและโพรไบโอติก ซึ่งมีความสำคัญต่อการเจริญของแบคทีเรียที่อยู่ในร่างกายทารก รวมทั้งระบบทางอาหารของทารก
4. นมแม่ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตด้านร่างกาย เพราะมีแอนติออกซิแดนท์และโกรทแฟคเตอร์ช่วยสร้างการเจริญเติบโตของร่างกายและควบคุมระบบต่างๆ ให้กับร่างกาย
5. นมแม่มีโปรตีนชนิดดีที่ย่อยง่าย คือ เบต้าเคซีน ช่วยให้ย่อยและดูดซึมได้ง่าย ทำให้ลูกสบายท้อง ท้องไม่อืด

ว้าววว กันเลยไหมคะ กับคุณประโยชน์ของนม เยอะขนาดนี้ไม่ต้องสงสัยเลยค่ะว่าทำไมลูกต้องดื่มนมแม่อย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต แต่หากพ้น 6 เดือนไปแล้วคุณแม่มีเหตุจำเป็นต้องเปลี่ยนนมให้กับลูก ก็สามารถทำได้นะคะ และต้องเปลี่ยนนมให้ถูกต้องด้วย ตามนี้เลยค่ะ

เมื่อถึงวันที่ต้องเปลี่ยนนมให้กับลูก เปลี่ยนอย่างไรให้ถูกต้อง

หากคุณแม่เปลี่ยนนมแม่มาเป็นนมผสม อย่างแรกเลยต้องพิถีพิถันอย่างมากเลยค่ะ กับเรื่องต่อไปนี้

1. เลือกนมที่ได้มาตรฐาน
2. เลือกนมที่มีสารอาหารครบถ้วนเหมาะสมกับช่วงอายุของลูก
3. เลือกกระป๋องเล็กก่อน มาลองทดลองดูหรือค่อยเทสไปนะคะ

ในการเปลี่ยนนมให้กับลูกไม่มีหลักสูตรที่ตายตัว อยู่ที่การยอมรับการเปลี่ยนแปลงของลูก ดังนั้นการเปลี่ยนนมในช่วงอายุ 6 - 12 เดือนขึ้นไป คุณแม่ต้องค่อยๆ เปลี่ยน ค่อยๆ ปรับ ให้ลูกดื่มนมผสมเพื่อให้ลูกคุ้นเคยกับรสชาติที่อาจเปลี่ยนไปได้ รวมทั้งให้ระบบการย่อยของลูกค่อยๆ ปรับตัว แต่ขอแนะนำวิธีที่ใช้กับเด็กเล็ก เด็กที่กินยากด้วยวิธีนี้นะคะ

• วันที่ 1 - 3 ใช้นมใหม่ แทน นมเดิม 1 - 2 ช้อนในทุกขวด
• วันที่ 4 - 6 ใช้นมใหม่ แทน นมเดิม 2 - 3 ช้อนในทุกขวด
• วันที่ 7 - 9 ใช้นมใหม่ แทน นมเดิม 3 - 4 ช้อนในทุกขวด

จากนั้นให้คุณแม่ทำเช่นนี้ จนลูกสามารถดื่มนมใหม่ได้ทั้งหมดค่ะ

***สำหรับวิธีนี้ถ้าอัตราส่วนการชงนมสูตรใหม่และเก่าไม่เท่ากัน คุณแม่อย่าลืมคำนวณปริมาณน้ำและนมที่ถูกต้องของสูตรนมด้วยนะคะ

ในช่วงเปลี่ยนนมนั้น ลูกอาจมีอาการท้องอืด ย่อยยาก ถ่ายเหลว ถ่ายแข็งบ้าง คุณแม่ไม่ต้องตกใจไปนะคะ เพราะช่วงนี้ลูกน้อยกำลังปรับตัวค่ะ แต่หากนานเข้าแล้วลูกยังมีอาการเช่นเดิม หรือมีผื่นขึ้น เกิดอาการแพ้ แนะนำให้ลองปรึกษาแพทย์ หรือเปลี่ยนนมสูตรใหม่นะคะ อ่านมาถึงตรงนี้คุณแม่อาจสงสัยว่าทำไมเด็กบางคนขับถ่ายสบาย แต่กับเด็กบางคนมีปัญหาเรื่องการขับถ่าย นั้นก็เพราะว่าลูกอาจไม่ถูกกับนมที่ดื่ม ทำไมเป็นแบบนั้น เกี่ยวกับส่วนผสมของนมหรือไม่ มาหาคำตอบกันค่ะ

ส่วนผสมของนมมีผลต่อการขับถ่ายของทารก

แน่นอนค่ะว่าส่วนผสมของนมนั้นมีผลต่อการขับถ่ายของลูก เพราะนมแต่ละชนิด ไม่ว่าจะเป็นนมแพะ นมวัว นมถั่วเหลือง ก็ย่อมมีส่วนผสมที่แตกต่างกัน รวมทั้งสารอาหารต่างๆ ก็ต่างกันไปด้วย ดังนั้นเพื่อให้ง่ายต่อสุขภาพระบบขับถ่ายที่ดีของลูก คุณแม่ต้องเลือกนมที่ช่วยในเรื่องการขับถ่าย โดยเลือกนมที่มีพรีไบโอติกหรือใยอาหาร ที่ช่วยในเรื่องของการขับถ่าย ปรับสมดุลของระบบทางเดินอาหาร ลดปัญหาท้องผูก เช่น อินนูลิน และโอลิโกฟรุคโตส รวมทั้งนมที่มีโปรตีนที่ดูดซึมได้ง่ายเพื่อช่วยในการดูดซึมแร่ธาตุและสารอาหารต่างๆ ได้เต็มที่ โปรตีนย่อยง่ายช่วยลดปัญหาท้องผูก ลูกน้อยขับถ่ายสบาย

นมเป็นสิ่งแรกที่ลูกน้อยได้ดื่ม การเลือกนมที่ดีเหมาะกับลูก ช่วยให้การขับถ่ายดี จะช่วยให้พัฒนาการของลูกด้านต่างๆ ดีตามไปด้วย ดังนั้นคุณแม่พลาดไม่ได้นะคะ หากจะเลือกนมหรือเปลี่ยนนมให้ลูกก็เลือกที่ช่วยให้การขับถ่ายสะดวก ย่อยง่าย และนมในท้องตลาดเป็นที่นิยมของแม่ยุค 2019 ในขณะนี้ หนึ่งในนั้นก็คือนมแพะ เพราะนมแพะเป็นนมที่มีโปรตีนย่อยง่าย ขับถ่ายสะดวก แถมยังมีพรีไบโอติกหรือใยอาหารที่ช่วยให้การขับถ่ายของลูกดี ดีขนาดนี้ แม่ๆ อย่าพลาดนะคะ Mamaexpert ขอแนะนำค่ะ

เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team

อ้างอิง

1. ดร.ผกากรอง วนไพศาล.น้ำนมแม่ ประโยชน์อเนกอนันต์.เข้าถึงได้จาก https://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/338/น้ำนมแม่/.[ค้นคว้าเมื่อ 15 สิงหาคม 2562]
2. ประโยชน์ของนมแพะ.เข้าถึงได้จาก https://www.dgsmartmom.com/benefits-of-product/.[ค้นคว้าเมื่อ 15 สิงหาคม 2562]
3. 10 facts on breastfeeding.เข้าถึงได้จาก http://www.who.int/features/factfiles/breastfeeding/en/.[ค้นคว้าเมื่อ 2 ตุลาคม 2561]