การคลอดธรรมชาติที่ปกติ จะสูญเสียเลือดจากการคลอดทั้งสิ้น ไม่เกิน 500 มิลลิลิตร และ ในรายที่ผ่าตัดคลอดสูญเลียเลือดไม่เกิน 1000 มิลลิลิตร หากเกินจากนี้ ทางการเเพทย์วินิจฉัยว่า คุณอยู่ในภาวะตกเลือดหลังคลอด การตกเลือดหลังคลอด นั้นเป็นเรื่องที่น่ากลัวเพราะเป็นภาวะแทรกซ้อนทางสูติกรรมที่เกิดขึ้น 1 – 5 % ของการคลอดทั้งหมดเลยทีเดียว และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของการคลอดที่สูงอีกภาวะหนึ่ง ซึ่งการตกเลือดหลังคลอดมีทั้งแบบเฉียบพลันและการตกเลือดหลังจาก24ชั่วโมงหลังคลอด มีรายละเอียดดังนี้

ประเภทของการตกเลือดหลังคลอด

1.ตกเลือดหลังคลอด เฉียบพลัน

ตกเลือดหลังคลอดเฉียบพลัน  หมายถึงการตกเลือดนั้นเกิดขึ้นภายใน24 ชั่วโมงหลังคลอด มีหลายสาเหตุได้แก่
มดลูกไม่หดรัดตัว 70%นับเป็นสาเหตุหลัก บาดแผลจากการคลอด 20% มีรกค้างรกค้าง 10%และมีความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด 1%

2.ตกเลือดหลังคลอด ระยะหลัง
ตกเลือดหลังคลอดระยะหลัง หมายถึง หลังคลอดผ่านมาแล้ว 24 ชั่วโมง พบได้ไม่บ่อยนัก สาเหตุหลักๆที่พบคือ เกิดจากการติดเชื้อ และอีกสาเหตุคือมีเศษรกค้าง

อาการเเสดงที่บ่งบอกว่าคุณอาจตกเลือดหลังคลอด

ขณะอยู่โรงพยาบาล จะมีเจ้าหน้าที่คอยประเมินภาวะตกเลอืดหลังคลอดอยู่ตลอดเวลา จนผ่านพ้น 72 ชั่วโมง และ เมื่อหลับบ้านมีเลือดออกมากผิดปกติ ไม่ใช่น้ำคาวปลา ปกติน้ำคาวปลาอาจเต็มผืนชุ่มผ้าอนามัยได้แต่ถ้ามากเกินไปควรผรึกษาแพทย์ทันที

การป้องกัน ภาวะตกเลือดหลังคลอด

การป้องกันเริ่มตั้งแต่แรกเริ่มตั้งครรภ์ ด้วยการรับประทานยาบำรุงครรภ์ที่ได้รับจากการฝากครรภ์ตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด มีคุณแม่บางกลุ่มเข้าใจผิด คิดว่ารับประทานยาบำรุงครรภ์ทำให้อ้วน ยาบำรุงครรภ์มีตัวยาที่สำคัญช่วยในการป้องกันการตกเลือดคือ ธาตุเหล็ก ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดงและ ปรับความเข้มข้นของเลือดให้อยู่ในภาวะปกติ ในคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ขาดธาตุเหล็ก หรือโลหิตจางขณะตั้งครรภ์ อัตราการตกเลือดหลังคลอดก็สูงตามไปด้วยเช่นกัน

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่หลังคลอด

1. 13อาการผิดปกติหลังคลอด ที่ควรรีบพบแพทย์

2. อาหารแม่หลังคลอด

3. เทคนิคการเพิ่มน้ำนมแม่ คลิกเลย

เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team