6 วิธีรักษาสิว กำจัดสิวอักเสบ ทำแล้วเห็นผลเร็วทันใจ

04 September 2022
833 view

วิธีรักษาสิว กำจัดสิวอักเสบ

.

.

สิว เป็นปัญหาของผิว ที่ก่อกวนใจใครหลายคนไม่ใช่น้อย เมื่อเป็นสิวก็จำเป็นต้องหาวิธีรักษาสิว เพื่อไม่ให้ก่อตัวอักเสบมากขึ้น ดังนั้นวันนี้เราจึงมีวิธีกำจัดสิวมาฝาก ซึ่งรับรองว่าได้ผลเร็วทันใจ แถมประหยัด ปลอดภัย และไม่ทำให้เกิดรอยสิวหลังจากสิวหายอีกด้วย มีวิธีไหนบ้างนั้นมาดูกันเลย

6 วิธีรักษาสิว กำจัดสิวอักเสบอย่างทันใจ

ถ้ารักษาสิวได้ถูกวิธี ก็จะสามารถช่วยให้สิวไม่ลุกลาม จนเป็นสิวอักเสบ โดยมีวิธีรักษาสิว ทั้ง 6 วิธี มาแนะนำ ดังต่อไปนี้

1. ประคบด้วยน้ำแข็ง
วิธีนี้เหมาะกับสาวๆ ที่สิวกำลังขึ้น โดยให้นำน้ำแข็งมาประคบบนสิวที่กำลังอักเสบ เพราะความเย็นของน้ำแข็งจะช่วยทำให้สิวยุบตัวลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ความเย็นยังช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น และช่วยเรื่องกระชับรูขุมขน ส่วนสาวๆ ที่มีผิวหน้ามัน การใช้น้ำแข็งประคบบนสิวที่อักเสบก็จะช่วยชะล้างสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ในต่อมไขมันได้เป็นอย่างดีอีกด้วย 

2. พอกด้วยดินสอพอง
คนสมัยก่อนมีวิธีรักษาสิว จากธรรมชาติ โดยการนำดินสอพองมาบดและผสมกับน้ำ จนมีความข้นเหนียว ก่อนนำมาพอกหน้า ซึ่งดินสอพองมีคุณสมบัติช่วยลดความมันของผิว จึงช่วยทำให้สิวที่อักเสบแห้งเร็วขึ้น และในปัจจุบันยังนิยมนำดินสอพองมาผสมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ เพื่อช่วยรักษาสิวและบำรุงผิวพรรณ แต่มีข้อแนะนำว่าไม่ควรพอกดินสอพองมากกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพราะอาจส่งผลให้ผิวแห้งมากขึ้น และทำให้เป็นสิวได้ง่ายขึ้นด้วย 

3. แต้มสิวด้วยยาสีฟัน

ยาสีฟันนอกจากช่วยให้ฟันสะอาดแล้ว ยังมีคุณสมบัติช่วยรักษาสิวอักเสบได้อีกด้วย โดยก่อนนอน ให้ป้ายยาสีฟันแล้วนำมาทาที่สิว ซึ่งจะช่วยให้สิวก็จะยุบลงอย่างรวดเร็ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องเลือกใช้ยาสีฟันที่เป็นเนื้อครีมสีขาวเท่านั้น จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดี แต่ถ้าสาวๆ ต้องการนำยาสีฟันมาทาสิวตอนกลางวัน แนะนำให้ทาทิ้งไว้เพียง 30 นาที แล้วรีบล้างออกให้ด้วยน้ำสะอาด โดยไม่ควรทาทิ้งไว้นาน เพราะอาจทำให้ผิวบริเวณนั้นไวต่อแสงแดดและไหม้ได้ 

4. พอกด้วยหอมแดง

วิธีรักษาสิว ด้วยการพอกด้วยหอมแดงนั้น นอกจากจะทำให้สิวยุบเร็วแล้ว ยังช่วยทำให้รอยแดงรอยดำจากสิวจางลง และหอมแดงยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย จึงลดการเกิดสิวใหม่ได้ ส่วนการพอกนั้น สามารถทำได้ง่ายๆ โดยให้นำหอมแดงมาสับเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่น้ำลงไปเล็กน้อย แล้วค่อยนำมาพอกหน้า ทิ้งไว้สัก 10นาที ค่อยล้างน้ำออกให้สะอาด เพียงแค่นี้ก็เรียบร้อย

5. แต้มด้วยน้ำมะนาว

มะนาวมีกรด AHA และมีวิตามินซีสูง จึงช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดสิว ซึ่ง วิธีรักษาสิว โดยการใช้น้ำมะนาวนั้น สาวๆ สามารถทำได้ทุกวัน เพียงบีบน้ำมะนาวสดๆใส่ถ้วย แล้วผสมน้ำอุ่นเพียงเล็กน้อย แล้วใช้ก้านสำลีชุบน้ำมะนาว นำมาแต้มที่เป็นสิว ทิ้งไว้ 10-15 นาที ค่อยล้างออก ซึ่งนอกจากนี้จะทำให้สิวยุบและแห้งเร็วแล้ว วิธีนี้ยังไม่ทำให้เกิดรอยดำจากสิวอีกด้วย

6. ทาด้วยกระเทียม

กระเทียมในครัวนั้น มีสรรพคุณมากมาย เช่นน้ำมันหอมระเหยที่ได้จากกระเทียมนั้น มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อต่างๆ อย่างเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดสิว ดังนั้นถ้าสาวๆ มีสิวขึ้น ให้นำกระเทียมมาฝานบางๆ แล้ว นำมาทาที่บริเวณที่เป็นสิว ทิ้งไว้สัก5นาทีค่อยล้างออก แค่นี้สิวก็ยุบแล้ว โดยวิธีรักษาสิววิธีนี้สาวๆ สามารถทำได้เป็นประจำทั้งเช้าและเย็นจนอาการอักเสบของสิวจะดีขึ้น

ป้องกันสิวอักเสบได้อย่างไร ต้องมาดู

สิวอักเสบนั้น ถ้าปล่อยไว้ไม่รีบรักษา อาจลุกลามทำลายผิวหนัง นอกจากจะทำให้เจ็บปวดแล้ว ยังทำให้บางคนหมดความมั่นใจ จากรอยแผลเป็นของสิวที่ไม่น่าดู ดังนั้นเราต้องหาทางป้องกันไม่ให้เกิดสิวขึ้น ดังต่อไปนี้

  • เลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว เช่น ความเครียด การนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ การใช้ยาบางชนิดที่ทำให้เกิดสิว ดังนั้นถ้าไม่อยากให้เกิดสิวอักเสบ ควรหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นเหล่านี้ 
  • ระวังการใช้เครื่องสำอาง คงไม่มีทางที่จะห้ามสาวๆ ไม่ให้ใช้เครื่องสำอางได้  เพียงแต่ต้องรู้จักเลือกใช้เครื่องสำอางที่เหมาะสม เช่น เครื่องสำอางที่ปราศจากน้ำมัน เพื่อช่วยป้องกันการอุดตันของสิว หรือการเลือกใช้แป้ง แนะนำว่าควรเลือกใช้แป้งฝุ่นมากกว่า แป้งรองพื้นเพราะมีโอกาสทำให้เกิดสิวได้
  • ทำความสะอาดผิวหน้าให้ถูกวิธี การทำความสะอาดผิวหน้าให้หมดจด จะช่วยลดการเกิดการอักเสบของสิวได้ โดยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยน ไม่ทำให้ผิวระคายเคืองซึ่งเป็นบ่อเกิดของสิว นอกจากนี้ยังไม่ควรล้างหน้าเกินวันละ 2-3ครั้ง เพราะจะทำให้ผิวหน้าแห้งรวมทั้งไม่ควรขัดถูหน้าแรงๆ จนเกิดการระคายเคือง และทำให้สิวขึ้นได้

เราคงไม่สามารถห้ามไม่ให้เป็นสิวได้ แต่เมื่อเป็นแล้ว การรู้จักหวิธีรักษาสิวอย่างถูกวิธี ก็จะสามารถช่วยให้สิวที่เป็นหายได้ ซึ่งวิธีเบื้องต้นนั้นสามารถทำได้เองง่ายๆ ที่บ้าน และได้ผลที่ดี แต่ในกรณีที่อาการไม่ดีขึ้น เช่นมีการอักเสบของสิวที่มากขึ้น อาจจำเป็นต้องไปปรึกษาแพทย์ที่เชี่ยวชาญ และเมื่อหายดีแล้ว ก็ควรหาทางป้องกันไม่ให้เกิดการอักเสบขึ้นมาอีก

เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team