เลือกนมให้ลูกอย่างไร ให้เหมาะกับวัยและไม่เสี่ยงแพ้

18 December 2018
3156 view

วันแรกที่ลูกลืมตาดูโลกนอกจากอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นจากแม่แล้ว ลูกยังต้องการสารอาหารบำรุงร่างกายและสมองให้เจริญเติบโตอย่างสมวัย การเลือกนมให้ลูกจึงเป็นสิ่งที่คุณแม่ต้องคำนึงอย่างมาก นอกจากเรื่องสารอาหาร กระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานแล้ว ลูกเสี่ยงแพ้ได้หรือไม่นั้นแม่ต้องเตรียมความรู้และรู้จริง!!! เพราะคุณแม่ไม่สามารถทราบล่วงหน้าได้เลยว่าลูกจะแพ้หรือไม่ จะทราบก็ต่อเมื่อลูกได้ดื่มนมเข้าไปแล้ว mamaexpert แฉไม่ยั้งนมที่มีสารก่อแพ้(เบต้า-แลคโตโกลบูลิน)แม่ต้องเลี่ยง และสิ่งที่แม่ต้องคำนึงก่อนจ่ายเงินซื้อนมให้ลูก ตามมาค่ะ

แฉ!!!สารก่อแพ้ (เบต้า-แลคโตกลอบบูลิน) ซุกซ่อนในน้ำนม

ภาพแสดง : ปริมาณร้อยละของเบต้า-แลคโตกลอบบูลินในนมชนิดต่างๆ


เบต้า-แลคโตกลอบบูลิน
(Beta lactoglobulin) เป็นโปรตีนที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ในเด็กทารก⁽¹⁾ เนื่องจากเป็นโปรตีนที่มีขนาดใหญ่ ร่างกายย่อยได้ยากทำให้เหลือตกค้างอยู่ในลำใส้เล็ก กลายเป็นสารก่อแพ้ จากการสำรวจพบว่าในนมวัวมีสารก่อแพ้มากกว่านมแพะถึง 3 เท่า นอกจากนี้นมแพะยังมีโปรตีนชนิดย่อยยากที่เรียกว่า แอลฟ่า-เอสวันเคซีน น้อยกว่าในนมวัว ร่างกายจึงสามารถดูดซึมน้ำนมแพะหมดภายใน 20-30 นาที เทียบกับน้ำนมวัวจะใช้เวลาในการดูดซึมถึง 2 ชั่วโมง⁽²⁾ ทำให้เด็กที่ดื่มนมแพะมีโอกาสแพ้น้อยกว่าทานนมวัว ส่วนในนมแม่นั้นปลอดภัยจากสารก่อแพ้อย่างแน่นอนค่ะ ส่วนจะทราบได้อย่างไรว่าลูกแพ้นมหรือไม่ มีวิธีดูอย่างไรตามมาค่ะ

อาการแบบนี้ ใช่ลูกแพ้นมหรือเปล่านะ?

การแพ้นมเกิดจากการที่ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อโปรตีนในนมขึ้นมา โดยปกติร่างกายจะนำโปรตีนที่ได้จากนมไปใช้ประโยชน์ แต่กลับสร้างภูมิหรือเกาะขึ้นมาต่อต้านโปรตีนนั้นแทน ส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติต่างๆ ตามมาและอาการแพ้นมในเด็กมีหลายระดับด้วยกัน เริ่มตั้งแต่เล็กน้อยไปถึงขั้นรุนแรง อาการแพ้อาจเกิดขึ้นทันทีหลังทานนม หรือเกิดหลังทานนม 7-10 วัน โดยอาการแพ้นมเด่นๆ ที่คุณแม่สามารถสังเกตได้ คือ มีผื่นขึ้นตามผิวหนัง ถ่ายเหลวมีูมูกปนเลือด อาเจียน ท้องอืด ท้องผูก แหวะนมบ่อยและร้องกวน⁽³⁾ เมื่อลูกมีอาการดังกล่าวหรือมีอาการที่น่าสงสัยว่าลูกอาจแพ้นม ควรรีบพาลูกไปพบแพทย์ทันที

เลือกนมอย่างไรให้โดนใจลูก ถูกใจแม่ ไม่เสี่ยงแพ้และท้องไม่ผูก

แม่ทุกคนอยากให้ลูกได้ดื่มนมที่ดีที่สุด สารอาหารครบที่สุด ดื่มแล้วท้องไม่อืด ท้องไม่ผูก ไม่แพ้นมอารมณ์ดีทั้งวัน ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์มากก่อนเลือกซื้อนมให้ลูกศึกษาด่วนๆค่ะ

1. เลือกประเภทนมให้เหมาะสมกับช่วงวัยของลูก นมแต่ละสูตรมีสารอาหารที่แตกต่างกัน เด็กแต่ละช่วงวัยก็ต้องการสารอาหารที่แตกต่างกัน หากลูกกินนมผิดสูตรลูกอาจมีปัญหาเรื่องระบบขับถ่าย อุจจาระแข็งหรือท้องผูกได้ โดยสูตรนมแต่ละสูตรเหมาะกับช่วงอายุลูกดังนี้

  • สูตร1 สำหรับทารกแรกเกิด - 1 ปี
  • สูตร2 สูตรต่อเนื่องสำหรับเด็กอายุ 6 เดือน - 3 ปี
  • สูตร3 สูตรสำหรับเด็กวัย 1 ปีขึ้นไป และทุกคนในครอบครัว

2. ควรเลือกนมที่มีสารอาหารสำคัญที่ลูกต้องการ ได้แก่ สารอาหารที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของสมอง อย่างเช่น DHA, ARA, โอเมก้า3 6 9, โคลีน, วิตามินB12 สารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างการเติบโตอย่าง แคลเซียม และสารอาหารที่เด็กยุคดิจิทัลไม่ควรพลาด คือ ทอรีน ที่เป็นสารอาหารที่ช่วยในการทำงานของจอประสาทตา

3. ควรเลือกนมที่มีการสร้างน้ำนมแบบ อะโพไครน์ (Aprocrine) เช่นเดียวกับนมแม่ เพราะมีสารอาหารจากธรรมชาติในปริมาณสูง

4. ควรเลือกนมที่ช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย เช่น มี นมที่มีพรีไบโอติก หรือใยอาหาร ช่วยให้ขับถ่ายดีขึ้น สบายท้อง ท้องไม่ผูก

5. เลือกนมที่ไม่มีโปรตีนก่อแพ้ในนม (เบต้า-แลคโตโกลบูลิน) เพื่อหลีกเลี่ยงการแพ้นม

6. ห้ามซื้อผลิตภัณฑ์ที่ไม่ระบุรายละเอียดอย่างชัดเจน : กล่องนมจะต้องระบุข้อมูลดังต่อไปนี้อย่างชัดเจน เครื่องหมาย อย., คำแนะนำ, คำอธิบายวิธีการชง, ขนาดปริมาณบรรจุ, วันผลิต-วันหมดอายุ รวมถึงข้อมูลของผู้ผลิตและคำเตือนต่างๆ

7. เลือกซื้อกล่องนมที่ไม่ผิดรูป : เพื่อคุณภาพของนม กล่องนมไม่ควรมีรอยกรีด รอยยุบ   รอยรั่วซึมของนม และฝาต้องปิดสนิท

8. เลือกซื้อขนาดทดลอง : เด็กที่ไม่เคยดื่มนมมาก่อนหรือเด็กที่อย่านมแม่ คุณแม่ควรเริ่มให้ลูกดื่มไซส์ทดลองก่อน หากลองดื่มแล้วมีอาการแพ้ จะได้เปลี่ยนยี่ห้อใหม่โดยไม่เปลืองงบ

ข้อมูลแน่นซะขนาดนี้ Mamaexpert เชื่อว่าคุณแม่จะสามารถเลือกนมที่ดีที่สุดให้ลูกได้อย่างแน่นอน อย่าลืมนะคะโปรตีนก่อแพ้ในนม หรือเบต้า-แลคโตโกลบูลินร้ายกาจขนาดไหน ถึงอย่างไร “นมแม่” ยังคือนมที่ดีที่สุด

แต่หากในวันที่ลูกไม่ได้ดื่มนมแม่แล้ว แม่ก็ควรเลือกนมที่มีโปรตีนก่อแพ้หรือ เบต้า-แลคโตโกลบูลิน ในปริมาณที่น้อยที่สุด นมแพะมีโปรตีนก่อแพ้เพียง 14%เท่านั้น และที่สำคัญนมแพะมีการสร้างน้ำนมแบบ อะโพไคร์ (Aprocrine) ที่เป็นกระบวนการสร้างน้ำนมแบบเดียวกันกับนมแม่ ซึ่งทำให้ได้สารอาหารธรรมชาติในปริมาณที่สูง นมแพะมีโปรตีนย่อยง่ายสูง อีกทั้งนมแพะยังมีพรีไบโอติกหรือใยอาหาร 2 ชนิด Inulin & Oligofructose ทำให้จุลินทรีย์สุขภาพเจริญเติบโตเพิ่มจำนวนขึ้น จึงช่วยปรับสมดุลของระบบทางเดินอาหารให้ทำงานได้เป็นปกติ ขับถ่ายง่าย ลดอาการท้องผูก และที่สำคัญยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงให้ลูกได้เป็นอย่างดี และนมแพะยังมีสารอาหารสำคัญอย่าง DHA, ARA,OMEGA 3 6 9, Choline, วิตามิน B12, แคลเซียม และทอรีน ที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาระบบประสาทและสมอง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกเติมโตสมวัยและช่วยให้ลูกรักน้ำหนักขึ้นตามเกณฑ์อีกด้วย นมแพะ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณแม่ยุคใหม่ต่างการันตีว่าดีต่อลูกอย่างแน่นอนค่ะ

เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team
อ้างอิง :

  1. ภูมิแพ้อาหาร. เข้าถึงได้จาก http://www.ifrpd-foodallergy.com/index.php/th/news/163-nz-researchers-breed-first-hypo-allergenic-milk-producing-cow. [ค้นคว้าเมื่อ 8 พฤศจิกายน 2561]
  2. สถาบันวิจัยและพัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.นมแพะชนิดผง.เข้าถึงได้จาก https://www3.rdi.ku.ac.th/?tag=เบต้า-แลคโตโกลบูลิน.[ค้นคว้าเมื่อ 6 พฤศจิกายน 2561]
  3. Cow's milk (dairy) allergy. เข้าถึงได้จาก https://www.allergy.org.au/patients/food-allergy/cows-milk-dairy-allergy .[ค้นคว้าเมื่อ 7 พฤศจิกายน 2561]
  4. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. การอ่านฉลากโภชนาการ.เข้าถึงได้จาก http://www.thaihealth.or.th/Content/37102 [ค้นคว้าเมื่อ 7 พฤศจิกายน 2561]
  5. ประโยชน์ของนมแพะ.ปริมาณโปรตีนก่อแพ้ในนมแพะและนมวัว.เข้าถึงได้จาก https://www.dgsmartmom.com/benefits-of-product/ .[ค้นคว้าเมื่อ 6 พฤศจิกายน 2561]