คุณพ่อคุณแม่ทุกคนย่อมอยากให้ลูกฉลาด ต่างคนก็ต่างมีวิธีที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะส่งเสริมด้านการเรียน สังคม รวมทั้งบำรุงสมองด้วยอาหาร เพื่อให้สมองได้รับการพัฒนา เพราะเด็กจะฉลาดได้ ส่วนหนึ่งมาจากสารอาหารบำรุงสมอง Mamaexpert ไม่พลาดที่จะนำสาระดีๆ หรือพูดได้ว่า...นำความลับเกี่ยวกับสมองเด็กมาเปิดโปงให้แม่ๆ ทุกบ้านได้ทราบไปพร้อมๆ กัน มาค่ะตามมาดูกันเลย
พัฒนาการสมองของเด็ก
คุณพ่อคุณแม่บางท่านอาจไม่ทราบมาก่อนว่าสมองของลูกนั้นพัฒนามาตั้งแต่วันแรกที่อยู่ในครรภ์ เซลล์สมองของตัวอ่อนในครรภ์จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อคลอดก็ยังพัฒนาต่อเนื่อง และในช่วง 2 ขวบ สมองของลูกจะมีขนาดประมาณ 3 ใน 4 ของผู้ใหญ่ และยังมีการพัฒนาต่อไป ซึ่งช่วง 3 ปีแรกของชีวิตสมองจะ พัฒนาอย่างรวดเร็ว⁽³⁾ ช่วงนี้พ่อแม่ต้องเร่งพัฒนา อย่างมากเพราะหากช้า สมองส่วนที่ไม่ได้พัฒนาหรือ ไม่ถูกกระตุ้นจะเริ่มถดถอยลง ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ลูกฉลาด มีหลากหลายปัจจัยด้วยกัน รายละเอียดมีดังต่อไปนี้
ลูกสมองไว ฉลาดได้ด้วยปัจจัยหลายสิ่ง
1. ลูกสมองไวฉลาดได้ด้วยพันธุกรรม พันธุกรรมเป็นที่สิ่งติดตัวลูกมาตั้งแต่แรกคลอด ดังนั้นพ่อแม่ที่เก่งหรือฉลาดในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ลูกจะได้รับความเก่งในด้านนั้นๆ มาด้วยเช่นกันเห็นได้จากครอบครัวที่พ่อหรือแม่มีทักษะ โดดเด่นเรื่องการร้องเพลง ลูกก็จะมีทักษะด้านนั้นไปด้วยเช่นกัน
2. ลูกสมองไวฉลาดได้ด้วยการเลี้ยงดู การเลี้ยงดูเป็นปัจจัยที่สำคัญซึ่งลูกจะฉลาดก็ขึ้นอยู่ที่วิธีการเลี้ยงดูด้วย เมื่อคลอดออกมา พ่อแม่ต้องกระตุ้นพัฒนาการ ด้านต่างๆ ให้สมวัย ใช้เหตุผลใช้วาจาที่ดีในการสื่อสาร ส่งเสริมให้ลูกได้ทักษะด้านประสาทสัมผัสครบทุกด้าน ทำกิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกาย ฝึกทักษะทางการคิด ภาษา การกระตุ้นดังกล่าวช่วยเพิ่มรอยหยักในสมองมากขึ้นหรือทำให้ลูกฉลาดขึ้น นอกจากการเลี้ยงดูแล้ว สภาพแวดล้อมที่อาศัยอยู่หรือบุคคลรอบข้างก็เป็นปัจจัย ช่วยให้ลูกฉลาดได้ เพราะสภาพแวดล้อมดี บุคคลรอบข้างมีปฎิสัมพันธ์เชิงบวกจะช่วยเอื้อให้ลูกเรียนรู้ได้ดี หรืออาจกล่าวได้ว่าการอยู่ใกล้คนที่ขยันหาความรู้ ก็จะพลอยทำให้เรามีนิสัยคล้อยตามนั่นเอง
3. ลูกสมองไวฉลาดได้ด้วยอาหาร อาหารเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของร่างกายและการพัฒนาสมองอย่างยิ่ง เพราะการรับประทานอาหาร ที่ดีมีประโยชน์ มีสารอาหารครบถ้วนย่อมส่งผลให้ร่างกายและสมองพัฒนาการได้อย่างเต็มที่แต่หากลูกไม่ได้รับอาหารบำรุงสมอง บำรุงร่างกายที่ครบถ้วน ย่อมส่งผลถึงพัฒนาการทางร่างกายและส่งผลต่อสมองเช่นกัน เมื่อคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกฉลาด จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องคัดสรรสารอาหารที่บำรุงสมองให้ตรงจุด อย่างเช่น DHA, ARA,โอเมก้า 3 6 9 สารอาหารที่ว่านั้นดีต่อสมองลูกมากแค่ไหน ตามไปดูในหัวข้อ ถัดไปกันค่ะ
สารอาหารสำคัญที่สมองลูกต้องการ
สารอาหารที่สำคัญต่อการพัฒนาสมองของลูกตั้งแต่แรกเกิดก็ คือ น้ำนมแม่ กุมารแพทย์ทั่วโลกต่างแนะนำให้เลี้ยงลูกด้วย นมแม่ล้วนติดต่อกัน 6 เดือน เพราะนมแม่มีไบโอแอคทีฟ คอมโพเนนท์, โอเมก้า 3 6 9, DHA รวมทั้ง ARA ซึ่งช่วยในการพัฒนาสมองและสติปัญญา ดังนั้นคุณแม่ควรทำความรู้จัก รู้ลึกรู้จริงเกี่ยวกับสารอาหารดังกล่าว...มาดูรายละเอียดกันค่ะ
- ไบโอแอคทีฟคอมโพเนนท์ เป็นสารอาหารจากธรรมชาติที่มี นิวคลีโอไทด์ช่วยส่งเสริมภูมิคุ้มกัน ทอรีนช่วยในการทำงานของจอประสาทตาและสมอง โพลีเอมีนส์ช่วยทำให้ระบบทางเดินอาหารสมบูรณ์ และโกรทแฟคเตอร์ช่วยพัฒนาด้านการเจริญเติบโต⁽²⁾
- โอเมก้า 3 6 9 โอเมก้า 3 6 เป็นสารตั้งต้นของ DHA ARA และโอเมก้า 9 ช่วยในการทำงานของสมอง⁽²
- DHA เป็นสารอาหารที่มีส่วนช่วยสร้างเส้นใยประสาทช่วยในการพัฒนาสมองและการมองเห็นซึ่งพบ DHA มากในอาหารทะเล เช่น ปลาแซลมอล ปลาทูน่า และสาหร่ายทะเลบางชนิด⁽¹⁾
- ARA เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว มีส่วนช่วยในการพัฒนาสมองและการมองเห็นจำเป็นต่อการสร้างเสริมเซลล์ประสาทและสายตา ซึ่งพบ ARA มากในปลาทะเล⁽¹⁾
ความฉลาดของลูกสร้างได้ด้วยอาหารและการเลี้ยงดู คุณแม่ควรมอบอาหารบำรุงสมองให้กับลูกตั้งแต่วันแรกที่คลอด “น้ำนมทุกหยด” มีสารอาหารครบตามที่กล่าวมา แต่หากคุณแม่ที่ไม่สามารถให้นมแม่ได้หรือน้ำนมไม่เพียงพอ นมแพะก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง จากการศึกษาพบว่า “แพะ” มีระบบการสร้างน้ำนมแบบเดียวกับคนทำให้มีสารอาหารธรรมชาติอย่างไบโอแอคทีฟคอมโพเนนท์ปริมาณสูง ซึ่งประกอบด้วย นิวคลีโอไทด์ ทอรีน โพลีเอมีนส์ และโกรทแฟคเตอร์ นมแพะมีสารอาหารบำรุงสมองครบถ้วน อีกทั้งโปรตีนจากนมแพะยังเป็นโปรตีนย่อยง่ายและดูดซึม ได้ง่าย อีกทั้งยังช่วยดูดซึมแร่ธาตุได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญยังช่วยลดและป้องกันอาการท้องอืดได้ นมแพะ อีกตัวเลือกหนึ่งดีๆ ของคุณแม่ยุคใหม่ ลูกน้อยสมองใส พัฒนาการสมวัยอย่างแน่นอนค่ะ
เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team
อ้างอิง
- 10 สารอาหารบำรุงสมอง สำหรับวัยเรียน . เข้าถึงได้โดย www.chularat.com . [ค้นคว้าเมื่อ 18 กรกฎาคม 2561]
- ประโยชน์ของนมแพะ. เข้าถึงได้โดย www.dgsmartmom.com .[ค้นคว้าเมื่อ 18 กรกฎาคม 2561]
- Your child's growing brain. เข้าถึงได้โดย www.babycenter.com .[ค้นคว้าเมื่อ 18 กรกฎาคม 2561]