นมกล่องสำหรับเด็ก 10 แบรนด์ เพื่อคุณแม่ฉลาดเลือก

18 September 2017
479668 view

นมกล่องสำหรับเด็ก

เหล่าคุณแม่เชิญมุงทางนี้เลยค่าาาา... เราเชื่อว่าคุณแม่ทุกคนย่อมอยากเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกน้อย วันนี้เราจึงรวบรวมนมกล่องพร้อมดื่มยูเอชที 10 แบรนด์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์นมยอดนิยมสำหรับเด็กตั้งแต่อายุ 1 ปีขึ้นไป มาเปรียบเทียบให้คุณแม่พิจารณากัน
ก่อนจะเปรียบเทียบสารอาหารในนมแต่ละชนิด สิ่งที่คุณแม่ควรรู้คือสารอาหารชนิดใดให้ประโยชน์ในด้านใดบ้าง นมสำหรับเด็กในท้องตลาดมีหลากหลายมาก ซึ่งคุณประโยชน์ที่คุณแม่ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญสามารถแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มหลักๆ ดังนี้

1.  พัฒนาการด้านสมอง

สารอาหารสำคัญได้แก่ โอเมก้า3 6 9 ดีเอชเอ/ เออาร์เอ ไอโอดีน เหล็ก สังกะสี วิตามินบี 12 กรดโฟลิก ทอรีน และโคลีน เป็นต้น

  • โอเมก้า 3 และ 6 สัดส่วนของกรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 ที่พอๆ กันเป็นสิ่งสำคัญของการมีสุขภาพที่ดี อาหารในยุคปัจจุบันมีโอเมก้า 6 ค่อนข้างสูงอยู่แล้ว ดังนั้นคุณแม่ควรเน้นนมที่มีโอเมก้า 3 นอกจากนี้ร่างกายยังสามารถเปลี่ยนโอเมก้า 3 (กรดไลโนลีนิก) เป็นดีเอชเอได้อีกด้วย
  • ดีเอชเอ เป็นกรดไขมันโอเมก้า 3 ชนิดหนึ่ง ร่างกายไม่สามารถสร้างดีเอชเอขึ้นเองได้ ต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น มีมากในนมแม่และในปลาทะเลน้ำลึก ให้ประโยชน์ในเรื่องความจำและการเรียนรู้
  • เหล็ก ไอโอดีน และวิตามินบี 12 สารอาหารพื้นฐาน 3 ตัวนี้จำเป็นต่อระบบประสาทและสมอง โดยเฉพาะเหล็กและไอโอดีนที่เด็กไทยส่วนใหญ่ได้รับไม่เพียงพอ นมที่มีปริมาณสารอาหารเหล่านี้อย่างน้อย 20% RDI จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

2. พัฒนาการด้านการมองเห็น 

สารอาหารสำคัญ ได้แก่ วิตามินเอ ลูทีน และโอเมก้า3 6 9 เป็นต้น

  • วิตามินเอ มีประโยชน์ต่อการมองเห็น โดยเฉพาะในที่ที่มีแสงน้อย นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องการเจริญเติบโต และภูมิคุ้มกันอีกด้วย
  • ลูทีน เปรียบเสมือนอัศวินผู้พิทักษ์ดวงตาสำหรับยุคดิจิตอล เพราะทำหน้าที่เสมือนแว่นตากันแดดธรรมชาติ ช่วยปกป้องจอประสาทตาไม่ให้ถูกทำลายจากแสงสีฟ้าที่มาจากแสงแดดและหน้าจอสกรีน ที่เป็นแหล่งเรียนรู้สำคัญของเด็กยุคนี้
  • โอเมก้า 3โอเมก้าไม่ได้มีประโยชน์ต่อสมองเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ต่อดวงตาอีกด้วย เพราะเป็นส่วนประกอบสำคัญของจอประสาทตา การเลือกนมที่มีโอเมก้า 3 โดดเด่นจึงได้ประโยชน์คูณสองทั้งสมองและดวงตาเลยทีเดียว

3. พัฒนาการด้านภูมิคุ้มกัน

ประโยชน์ด้านภูมิคุ้มกันก็สำคัญไม่แพ้ด้านอื่นๆ ยิ่งในยุคนี้ที่เด็กๆ เข้าออกโรงพยาบาลกันบ่อย สารอาหารกลุ่มนี้ที่คุณแม่ควรมองหาได้แก่ วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี เหล็ก และสังกะสี เป็นต้น โดยเฉพาะวิตามินซี และธาตุเหล็กที่เด็กๆ มักได้รับไม่เพียงพอจากอาหารประจำวัน

4. พัฒนาการด้านร่างกาย

สารอาหารกลุ่มที่คุณแม่ควรพิจารณาเพื่อการเจริญเติบโตพื้นฐานของเด็กๆ อย่างน้ำหนักและส่วนสูง ได้แก่ แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินดี พลังงาน โปรตีน และไขมัน เป็นต้น

  • แคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินดี แร่ธาตุสำคัญที่มีผลต่อมวลกระดูกและการเพิ่มความสูงของเด็ก นมที่เป็นแหล่งของแคลเซียมอันดับหนึ่งของเด็กๆ จึงควรมีปริมาณแคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินดีมากกว่า 20% RDI

ทำความเข้าใจถึงบทบาทของสารอาหารแต่ละกลุ่มกันแล้ว ก็เริ่มพิจารณาคุณประโยชน์ของนมแต่ละแบรนด์กันได้เลยค่ะ

หมายเหตุ

  • ปริมาณวิตามินแร่ธาตุที่ระบุเป็น % หมายถึง %RDI หรือร้อยละของปริมาณที่แนะนำต่อวัน ยกเล้นลูทีนที่ระบุเป็น % ของปริมาณส่วนประกอบทั้งหมด
  • ช่องว่างที่ไม่ระบุปริมาณสารอาหาร อาจหมายถึงมีสารอาหารนั้นแต่ไม่ได้แสดงให้เห็นบนตารางโภชนาการหรือไม่มีสารอาหารนั้นในผลิตภัณฑ์
  • ราคาและข้อมูลจากตารางโภชนาการบนบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ช่วงเดือนสิงหาคม 2017

สรุปแล้วเลือกนมกล่องแบรนด์ไหนให้ลูกดีนะ

ก่อนจะเลือกนมชนิดไหนเป็นคู่หูให้ลูกน้อย คุณแม่ต้องท่องให้ขึ้นใจว่านมเป็นเพียงอาหารเสริมจากมื้อหลักเท่านั้น ที่สำคัญนมที่เหมาะสำหรับลูกของเรา ไม่จำเป็นต้องเน้นเฉพาะปริมาณสารอาหารที่มากที่สุด แต่ควรเลือกนมที่เหมาะกับภาวะการเจริญเติบโต สิ่งที่คุณแม่ให้ความสนใจ รวมไปถึงรสชาติ และความคุ้มค่าด้วย ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นคุณแม่ฉลาดเลือกอย่างแท้จริงนะคะ ว่าแล้วเรามาสรุปกันเลย

เน้นพัฒนาสมอง

  • เอนฟาโกร เอพลัส รวมสารอาหารเพื่อสมองทั้งโอเมก้า 3,6,9 และพิเศษกว่าทุกแบรนด์ด้วยการมีเออาร์เอ ควบคู่กับดีเอชเอ และมีโคลีน ส่วนสารอาหารที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านอื่นๆ ก็มีครอบคลุมในปริมาณที่ค่อนข้างสูง ราคาต่อกล่องของแบรนด์นี้จึงสูงที่สุด (20 บาท) และอาจไม่ตอบโจทย์คุณแม่ที่นิยมในความสดของนม เพราะเป็นแบรนด์เดียวที่ผลิตจากนมผงล้วนๆ ไม่มีส่วนผสมของน้ำนมโคสด และยังมีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างสูง
  • โฟร์โมสต์ โอเมก้า โกลด์ โดดเด่นด้วยปริมาณดีเอชเอสูงที่สุดถึง 11.25 มก. จากปลาไม่ใช่จากน้ำมันพืชทั่วไป สารอาหารด้านอื่นๆ ก็มีในปริมาณค่อนข้างสูง มีส่วนผสมของน้ำนมโคสูงถึง 50% แต่ไม่มีธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่เด็กๆ มักขาด ราคาอยู่ในระดับกลางๆ ซึ่งถือว่าคุ้มค่าสำหรับคุณแม่ที่เน้นประโยชน์ทางด้านสมองเป็นหลัก

เน้นดูแลทั้งสายตา และสมอง

  • ดัชมิลล์ เจ็นไอ ถึงแม้จุดเด่นจะเน้นสารอาหารเพื่อพัฒนาการด้านสายตา ทั้งวิตามินเอสูง และโดดเด่นด้วยลูทีนธรรมชาติจากผงกีวี่สกัด แต่สารอาหารเพื่อสมองก็มีโอเมก้า 3 สูงที่สุดถึง 150 มก. มีโอเมก้า 6 และ 9 ด้วย สำหรับสารอาหารที่จำเป็นด้านอื่นๆ ก็มีหลากหลาย แถมยังมีในปริมาณสูงติดอันดับต้นๆ เช่น เหล็ก วิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินดี ที่สำคัญนำเสนอในราคาที่สบายกระเป๋าเพียง 10 บาท เรียกได้ว่าคุ้มค่าสำหรับคุณแม่ที่เน้นประโยชน์เพื่อสายตาและสมอง แต่ก็ไม่ทิ้งสารอาหารสำคัญเพื่อพัฒนาการด้านอื่นๆ เลยทีเดียว

เน้นเสริมสร้างภูมิต้านทาน

  • ไฮคิว  เป็นแบรนด์เดียวที่มีใยอาหารสูตรเฉพาะ GOS/lcFOS ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพลำไส้ เสริมสร้างภูมิต้านทานให้เด็กๆ และมีดีเอชเอ โอเมก้า โคลีน และทอรีนที่ช่วยเรื่องพัฒนาการสมองด้วย นำเสนอในราคาค่อนข้างสูง (19 บาท) 

เน้นส่วนผสมน้ำนมโคแท้และปริมาณสารอาหารตามธรรมชาติ

  • ไทย-เดนมาร์ค และโฟร์โมสต์ สามารถเป็นตัวเลือกที่ดีให้คุณแม่ได้ โดยไม่มีความแตกต่างกันมากนัก ซึ่งจะได้ความสดของน้ำนมโคแท้ โดยไม่มีการเสริมสารอาหารใดๆ ปริมาณวิตามิน แร่ธาตุส่วนใหญ่จึงมีปริมาณน้อยกว่ากลุ่มนมสูตรสำหรับเด็กอื่นๆ แต่ให้ปริมาณพลังงานและไขมันที่มากกว่านมสูตรสำหรับเด็ก จึงเหมาะสำหรับคุณแม่ที่ชื่นชอบน้ำนมโคสด พร้อมสารอาหารตามธรรมชาติ เน้นให้ลูกดื่มนมเพื่อเสริมแคลเซียมเป็นหลัก

สุดท้ายนี้ ถึงแม้หน้าที่หลักของนมคือการเป็นแหล่งแคลเซียมที่ดีที่สุด แต่นมสูตรสำหรับเด็กที่เสริมสารอาหาร ก็ช่วยให้เด็กๆ ได้คุณประโยชน์มากขึ้น ยิ่งในยุคดิจิตอลที่เด็กๆ ต้องเรียนรู้รอบด้าน นมที่มีสารอาหารเพื่อสายตาและสมอง พร้อมสารอาหารพื้นฐานที่หลากหลาย ในราคาที่คุ้มค่าจึงเป็นตัวเลือกที่คุณแม่ไม่ควรพลาดนะคะ

เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team