อาการผิดปกติหลังคลอด
การเปลี่ยนแปลงของร่างกายภายหลังจากการคลอดบุตร ในคุณแม่แต่ละคนอาจแตกต่างกันไป เนื่องด้วยสรีระ หรือความแข็งแรงของร่างกาย หรือภาวะสุขภาพของคุณแม่แต่ละคน ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับวิธีการคลอดลูกอีกด้วย คือคลอดทางช่องคลอด หรือ ผ่าตัดคลอดลูก และยังมีปัจจัยส่วนบุคคลอื่นๆ อีกที่ต่างกัน คุณแม่หลังคลอดควรสังเกตอาการผิดปกติที่เกิดขึ้น และไม่ควรนิ่งนอนใจ อาการต่างๆที่อันตรายและควรรีบพบสูติแพทย์ทันที มีดังต่อไปนี้ค่ะ
- มีเลือดออกมาทางช่องคลอดจนชุ่มผ้าอนามัย 1 ผืนภายใน 1 ชั่วโมง ควรรีบไปโรงพยาบาล และใช้น้ำแข็งวางบนหน้าท้องหรือมดลูกเพื่อให้เลือดออกมาน้อยลง
- น้ำคาวปลามีสีแดงสดนานเกิน 4 วัน
- น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็นผิดปกติ ซึ่งปกติแล้วกลิ่นจะเหมือนเลือดประจำเดือน
- มีก้อนเลือดขนาดใหญ่ออกทางช่องคลอด ซึ่งปกติแล้วอาจจะมีเพียงลิ่มเลือดเล็กๆ ออกมาปนกับน้ำคาวปลา
- น้ำคาวปลาไม่ไหล โดยเฉพาะใน 2 สัปดาห์แรกหลังคลอด
- ปวดท้องน้อย หรือปวดรำคาญในระยะ 1 สัปดาห์หลังคลอด
- มีไข้สูงเกิน 38 องศาเกิน 24 ชั่วโมงโดยเฉพาะหลังคลอดวันแรก
- เจ็บหน้าอก ซึ่งอาจเกิดการอุดตันของลิ่มเลือดเล็กๆ ในปอด
- การปวดบวมของขาและน่อง อาจเกิดจากมีหลอดเลือดอุดตันบริเวณนั้น
- อาการปวด บวม ของเต้านมบางส่วน แม้ว่าอาการตึงคัดจะหายไปแล้ว ซึ่งอาจเกิดจากการอุดตันของท่อน้ำนมบางส่วนทำให้เกิดการอักเสบของเต้านม
- มีอาการบวมแดงของแผลผ่าตัด เป็นหนอง มีน้ำเหลืองไหลซึม
- ปัสสาวะแล้วแสบหรือรู้สึกขัด ปัสสาวะบ่อยแต่ปริมาณน้อยลง และสีเข้มจัด
- มีอาการซึมเศร้าเกิน 2-3 วัน และมีอารมณ์โกรธร่วมด้วย
หลังคลอดคุณแม่ทุกคน ไม่ว่าจะคลอดด้วยวิธีใดก็ตาม ควรได้พักผ่อนเต็มที่ อย่างน้อย 4- 6 สัปดาห์ เพื่อให้ระบบต่างๆของร่างกายเข้าสู่ภาวะปกติ ในช่วงฟื้นฟูนี้ คุณแม่หลังคลอด ควรได้รับอาหารครบ 5 หมู่ เพื่อเสริมสร้างร่างกายให้มีความพร้อมในการดูแลลูกน้อย และเพิ่มปริมาณน้ำนม อย่าเพิ่งกังวลกับร่างกายที่ดูบวม อวบ อ้วน ควรให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพและการดูแลลูกน้อยก่อนค่ะ
บทความแนะนำเพิ่มเติม
1.คุมกำเนิดหลังคลอดแบบไหนคลิกเลย
3.เทคนิคการเพิ่มน้ำนมแม่ คลิกเลย
เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorail Team