วัคซีนแม่ตั้งครรภ์ วัคซีนคนท้อง ต้องฉีดตัวไหนบ้าง?

07 January 2017
25088 view

วัคซีนแม่ตั้งครรภ์

โดยหลักการ คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรได้รับสารหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าร่างกาย เพราะอาจจะมีผล ต่อทารกในครรภ์ ในความเป็นจริง การติดเชื้อบางชนิด ขณะตั้งครรภ์ หรือระหว่างการคลอด หลังตลอด จนทารกแรกคลอด อาจมีผลเสียอย่างมาก

แนวทางการให้วัคซีนแม่ตั้งครรภ์

1. ไม่ควรให้วัคซีนที่มีชีวิต (live attenuated vaccine) ก่อนการตั้งครรภ์ 1 เดือน จนถึงคลอด เช่น วัคซีน หัด หัดเยอรมัน คางทูม สุกใส อย่างไรก็ตามในกรณีที่ให้ไปแล้ว ไม่ทราบว่าจะตั้งครรภ์ ก็ไม่ควรวิตกกังวลมาก เพราะจากการติดตาม รายที่ได้รับวัคซีนไปแล้ว ก็ไม่ได้มีผลเสียมากอย่างที่คิดในทฤษฎี และก็ไม่มีข้อบ่งชี้ การยุติการตั้งครรภ์ หลังได้รับวัคซีนเชื้อเป็น
2. วัคซีนเชื้อตาย (inactivated vaccine) ตามทฤษฎีแล้ว น่าจะให้ได้ แต่ทางปฏิบัติ ถ้าทราบว่าตั้งครรภ์ให้หยุดไว้ก่อน จนคลอด จึงค่อยฉีดต่อให้ครบ เช่น วัคซีนตับอักเสบ บี ตับอักเสบ เอ
3. วัคซีนที่ควรได้รับในคุณแม่ตั้งครรภ์  คือไข้หวัดใหญ่ และคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก แบบผู้ใหญ่ (Tdap) ทั้งนี้เพราะในสตรีตั้งครรภ์ ถ้าเป็นไข้หวัดใหญ่ ในระยะ 3 เดือนท้ายการตั้งครรภ์ อาการจะรุนแรงมาก เพราะพื้นที่ปอดลดลง จึงแนะนำให้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ สตรีตั้งครรภ์ได้ ใครจะให้เมื่ออายุครรภ์ 6 เดือนแล้วก็ได้ ส่วนวัคซีน คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก (Tdap) ให้เพื่อป้องกันบาดทะยัก ในทารกแรกเกิด (tetanus neonatorum) ในกรณีที่ตัดสายสะดือไม่สะอาด หรือคลอดเองที่บ้าน ในแท็กซี่ และไอกรน จะป้องกันไอกรนในทารก ก่อนที่ทารกจะมีภูมิป้องกันไอกรน หลังได้รับวัคซีน เข็มแรกเมื่อ 2 เดือน และกว่าจะมีภูมิคุ้มป้องกันได้เอง และคอตีบ จะเพิ่มภูมิให้มารดา เพื่อป้องกันตัวมารดาในอนาคต สตรีตั้งครรภ์ ควรได้รับเมื่อายุครรภ์ 27 - 36 weeks
4. วัคซีนเฉพาะกรณี ที่จำเป็นมากเช่นวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า ในกรณีถูกสุนัขหรือสัตว์ ที่เสี่ยงพิษสุนัขบ้ากัด โรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรครุนแรง ดังนั้นจึงต้องให้ และวัคซีนดังกล่าวก็เป็นเชื้อตาย ผลได้มากกว่าเสียแน่นอน

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่

1. การดูแลตัวเองขณะตั้งครรภ์

2. อาหารบำรุงครรภ์ตลอด40สัปดาห์

3. ยาบำรุงครรภ์ลดความพิการของทารก

เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team