ตกขาวขณะตั้งครรภ์ อันตรายหรือไม่และรักษาอย่างไร?

03 December 2016
308104 view

ตกขาวขณะตั้งครรภ์

ตกขาวหรือ leucorrhoea  คือ ของเหลวที่ไหลออกมานอกช่องคลอด (ไม่ใช่เลือด) ตกขาว มีความเข้มข้นแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงภายในช่องคลอด ที่เป็นผลมาจากฮอร์โมน แต่ละคนมีลักษณะ สี กลิ่น และปริมาณแตกต่างกันไป

ตกขาวขณะตั้งครรภ์ ( leucorrhoea in pregnancy )

คุณแม่ตั้งครรภ์มีการเปลี่ยนแปลงทางสรีระ และฮอร์โมนเพศ ส่งผลให้มีเลือดมาคั่งมากในช่องคลอดที่คอมดลูก ต่อมต่าง ๆในคอมดลูกทำงานมากขึ้นมีน้ำไหลออกมาจากช่องคลอดเพิ่มขึ้นมากขึ้น เมื่อหลุดออกมาจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยเชื้อแบคทีเรียที่พบเป็นปกติในช่องคลอดของผู้หญิงทุกคน เป็นผลให้เซลล์สลายออกมาเกิดเป็นตกขาวได้ และจะพบการตกขาวขณะตั้งครรภ์มากที่สุดในไตรมาสสุดท้าย หรืออาจกล่าวได้ว่าตกขาวเป็นปรากฏการที่ปกติสำหรับผู้หญิงและจะมีปริมาณมากขึ้นเมื่อตั้งครรภ์ หากไม่มีอาการคัน หรือมีสีแปลกๆ  หรือมีกลิ่นเหม็น ให้สบายใจได้ว่า เป็นอาการปกติ

ลักษณะของตกขาวขณะตั้งครรภ์ที่ผิดปกติ

  1. ตกขาวมีปริมาณมากกว่าปกติ
  2. มีอาการคัน
  3. มีสีเหลืองเข้ม  ลักษณะคล้ายหนองปนเลือด มีกลิ่นหนอง ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อหนองในคุณแม่ตั้งครรภ์จะมีอาการ ปวดบริเวณช่องคลอด หรือท้องน้อย ปัสสาวะแสบขัดหรือปัสสาวะบ่อย จนอาจมีเลือดออก ซึ่งเป็นตกขาวที่อันตรายมาก หากมีอาการดังนี้ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาโดยเร็ว
  4. ตกขาวสีเขียว หรือสีเขียวปนเทา เขียวปนเหลือง ตกขาวลักษณะดังกล่าวมักเกิดจากการติดเชื้อ เช่น ติดเชื้อปรสิต เติดชื้อหนองในเทียม ติดเชื้อพยาธิด้วย นอกจากนั้น สามารุพบอาการตกขาวเป็นฟอง มีกลิ่นเหม็น มีอาการคัน บวมแดงบริเวณปากช่องคลอด รวมถึงปัสสาวะแสบขัด ร่วมด้วย ถือเป็นตกขาวที่รุนแรง หากมีอาการควรรีบปรึกษาแพทย์ เพราะหากปล่อยไว้อาจลุกลามถึงทารกภายในครรภ์ได้
  5. ตกขาวสีน้ำตาล  เกิดจากเยื่อบุผนังมดลูกลอกตัว พบได้บ่อยแต่คุณแม่ต้องแยกให้ออกว่า เป็นสีน้ำตาลของตกขาวหรือเป็นเลือดเก่า หากเกิดจากตกขาว มีอากาคันร่วมด้วยควรปรึกษาแพทย์
  6. ตกขาวเป็นก้อน ตกขาวมีลักษณะคล้ายนมบูด ตกขาวมีลักษณะคล้ายแป้งเปียก  เป็นตกขาวที่เกิดจากการติดเชื้อรา และเชื้อแบคทีเรียส่วนใหญ่จะมีอาการแสบคัน และมีลิ่นเหม็นคาว บวมแดงที่บริเวณอวัยวะเพศและภายในช่องคลอด แนะนำให้ปรึกษาแพทย์

การดูแลความสะอาดจุดซ่อนเร้นเมื่อเป็นตกขาวขณะตั้งครรภ์

  1. ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นด้วยน้ำปกติ
  2. หากต้องการใช้สบู่  ควรเลือดชนิดที่อ่อนโยน เพราะ สบู่อาจมีฤทธิ์ทำลายความเป็น กรด-ด่าง ตามธรรมชาติภายในช่องคลอดได้  การทำลายสมดุลย์กรด – ด่าง ของช่องคลอดอาจทำให้ติดเชื้อได้
  3. หลังขับถ่ายล้างทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น  เน้นซับให้แห้งทุกครั้ง ลดความอับชื้นสาเหตุของเชื้อรา
  4. ขณะตั้งครรภ์มีน้ำเมือกเมือกที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนการตั้งครรภ์ ไหลออกจากช่องคลอดมากกว่าปกติ ควรเปลี่ยนกางเกงในบ่อยๆ
  5. ควรเลือดสวมใส่กางเกงใน ที่ผลิตจากใยผ้าที่บางเบา ไม่รัดแน่น
  6. ไม่ทาแป้ง
  7. ไม่ฉีดน้ำหอม

การรักษาตกขาวขณะตั้งครรภ์ 

  1. การรักษาตกขาวตกขาวจากเชื้อรา แพทย์อาจจะให้ยาเหน็บรักษาด้วย โคลไทรมาโซล
  2. การรักษาตกขาวตกขาวเชื้อพยาธิในช่องคลอด แพทย์นิยมใช้ยารับประทาน เมโทรนิดาโซล ให้รับประทาน
  3. การรักษาตกขาวตกขาว จากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แพทย์จะให้เหน็บยาทางช่องคลอดตามเชื้อที่ตรวจพบและตรวจคู่สมรสด้วย หากพบว่าติดเชื้อจากคู่สมรสแพทย์จะรักษาไปพร้อมๆกัน เพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำขณะตั้งครรภ์

ตกขาวขณะตั้งครรภ์พบได้บ่อยคุณแม่ตั้งครรภ์อย่าตกใจ ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงทำให้มีตกขาวได้ คุณแม่ตั้งครรภ์สังเกตอาการ สี กลิ่น หากผิดปกติ ไม่ต้องอายควรรีบพบแพทย์ เพื่อรับยารักษาให้หาย เพราะถ้าปล่อยไว้เรื่อรัง อาจส่งผลต่อลูกน้อยในครรภ์ได้

บทความแนะนำเพิ่มเติม

1. ตกขาวผิดปกติ ตกขาวมีกลิ่นแก้ไขอย่างไรดี

2. อาการวันตกไข่เป็นอย่างไร ผู้หญิงต้องรู้

3. ลดอาการปวดประจำเดือนด้วยกล้วยหอม

เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team