ไวรัสโรต้า
ไวรัสโรต้า ( Rotavirus ) เป็นอีกเชื้อโรคที่คุณแม่มือใหม่หลายคนอยากรู้จัก ถ้าจะไม่รู้จักเลยก็ไม่ได้ เพราะเด็กทุกคนมีโอกาสสัมผัสกับเชื้อนี้ได้ในทุกวัน เด็กวัยเริ่มพลิกเริ่มคลาน จะหยิบจับสิ่งของรอบตัวเข้าปากอยู่บ่อยๆ นับเป็นช่องทางให้เชื้อโรต่้าเข้าสู่ร่างกายหนูน้อย เมื่อได้รับเชื้อดังกล่าว จึงทำให้ลูกน้อยมีอาการท้องร่วงรุนแรงตามมา มีสถิติเด็กเสียชีวิตจากท้องร่วงสูงนับร้อยคนต่อปี คุณแม่ต้องใส่ใจและทำความรู้จักกับไวรัสโรต้าตัวนี้
ไวรัสโรต้า ก่อให้เกิดท้องร่วงได้อย่างไร
ไวรัสโรต้า หรือ Rotavirus เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคท้องร่วงในเด็กเล็ก โดยมักจะเกิดกับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี โดยเชื้ออาจติดมากับมือ ของเล่นที่เปื้อนน้ำมูก น้ำลาย หรืออุจจาระของผู้ที่ติดเชื้อ เมื่อเด็กสัมผัส และเอามือเข้าปาก เชื้อโรคก็จะเข้าสู่ร่างกายโดยตรงทำให้มีไข้ ปวดท้อง อาเจียน และท้องเสียได้
อาการที่ต้องพาลูกพบแพทย์มีดังนี้
- ลูกซึม ไม่มีแรง มือเท้าเย็น
- ลูกอาเจียนมาก หรือถ่ายอุจจาระมากผิดปกติ
- ปัสสาวะสีเข้ม ปัสสาวะน้อย หรือไม่ปัสสาวะเลยเกิน 6 ชั่วโมง
- เด็กโตร้องไห้ไม่มีน้ำตา
- เด็กเล็กมีอาการกระหม่อมบุ๋ม
ป้องกันลูกจากเชื้อ ไวรัสโรต้า ได้อย่างไร
ปัจจุบันยังไม่มียารักษาโรคท้องร่วงจากการติดเชื้อไวรัสโรต้าให้หายขาด คุณแม่ต้องดูแลให้ลูกได้รับวัคซีนโรต้าเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน วัคซีนดังกล่าวไม่สามารถรักษาป้องกันได้ 100%แต่เป็นการลดโอกาสเสี่ยง หรือท้องร่วงน้อยลงหากได้รับเชื้อ คุณแม่ควรฝึกให้ลูกล้างมือก่อนรับประทานอาหาร และหมั่นดูแลความสะอาดของเล่นต่างๆด้วยการล้างด้วยน้ำยาฆ่าเชื้ออยู่เป้นประจำ ไม่พาลูกไปในสถานที่แออัดซึ่งเป็นแหล่งแพร่เชื้อดังกล่าว
วัคซีนป้องกันการติดเชื้อ ไวรัสโรต้า
ปัจจุบัน ได้มีการผลิตวัคซีนที่ใช้ในการป้องกันโรคอุจจาระร่วงจากเชื้อไวรัสโรต้า โดยเริ่มผลิตครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อ 10 ปีก่อน แม้มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันโรค แต่มีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น ได้แก่ การเกิดโรคลำไส้กลืนกัน จึงมีการระงับการใช้ไป ต่อมาเมื่อ 2 ปีก่อนได้มีการพัฒนาวัคซีนรุ่นใหม่เพื่อลดภาวะแทรกซ้อนได้ ซึ่งวัคซีนรุ่นใหม่นี้เป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูง ในการป้องกันโรคและมีความปลอดภัยสูง
วัคซีนโรต้าใช้รับประทานในเด็กเล็กอายุ 6 สัปดาห์ขึ้นไป ให้ 2-3 ครั้งแล้วแต่ชนิดของวัคซีน แต่ละครั้งห่างกันอย่างน้อย 4 สัปดาห์ ควรให้แล้วเสร็จก่อนอายุ 6 หรือ 8 เดือนขึ้นกับชนิดของวัคซีน อาจมีผลข้างเคียงที่พบได้บ้าง คือ ไข้ ถ่ายเหลว และอาเจียน
แม้ว่าปัจจุบันจะมีวัคซีนหยอด เพื่อป้องกันเชื้อไวรัส ซึ่งสามารถลดการติดเชื้อได้หรือลดความรุนแรงของอาการได้ก็จริง แต่การใช้วัคซีนจึงอยู่ในวงจำกัด ยังไม่ทั่วถึง เพราะไม่ได้อยู่ในโปรแกรมของการให้วัคซีนแก่เด็กทั่วประเทศตามที่กระทรวงสาธารณสุขระบุ