โรคหัดกุหลาบ อันตรายแค่ไหน รักษาอย่างไรดี?

14 August 2019
2942 view

โรคหัดกุหลาบ 

จริงๆ โรคนี้มีชื่อเรียกหลายชื่อเลยค่ะ โรคส่าไข้ โรคหัดกุหลาบ หัดดอกกุหลาบ หรือ หัดกุหลาบทารก (roselar infantum) สารพัดจะเรียก ชื่อที่หลากหลายนี้มาจากการแปลจากชื่อโรคภาษาอังกฤษที่ไม่เหมือนกัน เลยได้ชื่อที่ทำให้หลายคนสับสนกับโรคหัด(measle) ซึ่งโรคนี้เป็นคนละโรคและไม่เกี่ยวอะไรกับโรคหัดเลย

โรคหัดกุหลาบเกิดจากอะไร? 

โรคหัดกุหลาบ หรือส่าไข้ ส่วนมาก (95%) เป็นในเด็กอายุน้อยกว่า 2 ขวบค่ะ (แต่สามารถพบได้จนถึงอายุ 3 ขวบ) สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อไวรัส HHV6 (human herpes virus type 6) ติดต่อกันทางน้ำลาย ไอจามรดกัน หรือการสัมผัสน้ำมูกน้ำลายของเด็กป่วย (ทั้งทางตรง เช่นเล่นตบแปะกัน หรือทางอ้อม เช่น ผ่านทางของเล่น) แล้วเอามือมาขยี้ตา แคะจมูก เข้าปาก ทำให้เชื้อเข้าสู่ร่างกายลูก

โรคหัดกุหลาบมีอาการอย่างไร? 

  • มีไข้สูงเฉียบพลัน 39-40องศา โดยไม่มีปี่มีขลุ่ย และไม่มีอาการอื่นเลย หรือบางคนอาจมีไอน้ำมูก ตาแดง ถ่ายเหลวร่วมด้วยกรุบกริบ ช่วงไข้เด็กมักไม่ซึมมาก ยังพอเล่นได้ทานได้
  • ไข้สูงนี้จะเป็นอยู่ 3-5 วัน อยู่ๆ ไข้จะลงเอง (ตอนไข้จะขึ้นก็ขึ้นปรี๊ดๆ พอไข้จะลงอยู่ๆ ก็ลงปรู๊ดปร๊าดเหมือนกันค่ะ)
  • แต่สิ่งที่ยืนยันส่าไข้ได้ชัดเจนคือช่วงไข้ลงค่ะ เพราะพอไข้ลงไม่กี่ชั่วโมง จะเห็นผื่นแดงเล็กๆขึ้นเต็มตัว ทั้งลำตัวแขนขา บางคนลามมาถึงที่หน้า ผื่นนี้ไม่ค่อยคัน
  • แม้ว่าผื่นจะดูน่ากลัว แต่จริงๆไม่อันตรายนะคะ ไม่ต้องทาอะไรเลยผื่นก็หายเองได้ภายใน 1-2วัน 

โรคหัดกุหลาบหรือโรคส่าไข้อันตรายมากไหม? 

ส่าไข้ หรือหัดกุหลาบ ส่วนใหญ่ไม่มีภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายถึงชีวิตค่ะ มีเพียง 15% ที่มีอาการชักจากไข้สูง แต่เนื่องจากอาการในช่วงแรกแยกยากจากไข้หวัดหรือท้องเสียอื่นๆ ดังนั้นถ้าเด็กเล็กมีไข้สูง ควรไปตรวจให้แน่ใจก่อนค่ะว่าไม่ใช่โรคร้ายแรงอื่นๆ

โรคหัดกุหลาบ สามารถตรวจหรือยืนยันโรคจากอะไรได้บ้าง

มีการตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อค่ะ แต่ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงมาก และเกินจำเป็น ในทางปฏิบัติไม่ค่อยมีหมอส่งกัน ส่วนใหญ่ถ้าไข้สูง ช่วงแรกการวินิจฉัยอาจไม่ชัดเจน เช่น บางคนอาจวินิจฉัยว่าไข้หวัดบ้าง กระเพาะ/ลำไส้อักเสบบ้าง แต่สุดท้ายพอไข้ลงปุ๊บผื่นค่อยขึ้น ก็ยืนยันการวินิจฉัยได้แล้ว ว่าเป็นส่าไข้แน่นอนค่ะ

นอกจากนี้ ลักษณะผื่นของส่าไข้จะขึ้นจากที่ตัวก่อน ค่อยลามกระจายออกไปที่แขน ขา ใบหน้า ใช้อาการนี้แยกกับโรคหัดได้ โดยโรคหัด จะมีผื่นขึ้นในขณะที่ยังไข้ และผื่นจะขึ้นจากหัวไปหาง เอ้ย.. จากหัว ลามไปตัว แล้วค่อยลามไปขา ลงมาเรื่อยๆค่ะ

โรคหัดกุหลาบเป็นแล้ว รักษาอย่างไร?

  • ไม่ต้องทานยาฆ่าเชื้อค่ะ เนื่องจากเป็นโรคของไข้สูง ดังนั้นการรักษาหลักๆ คือการรักษาตามอาการ โดยเฉพาะอาการไข้ ทานน้ำเยอะๆ ทานยาลดไข้ และเช็ดตัวลดไข้
  • ส่วนผื่นที่ขึ้นหลังไข้ลง ก็สามารถหายเองได้ไม่เกิน 1-2 วัน โดยลูกไม่คัน ไม่ต้องทายาอะไรค่ะ ไม่มีแม้แต่แผลเป็นใดๆ

ส่วนการป้องกันส่าไข้ หรือหัดกุหลาบนั้น ไม่มีวัคซีนป้องกันค่ะ แต่ป้องกันได้จากการไม่เอามือเข้าปาก ... ซึ่งเด็กๆอาจทำได้ยากค่ะ 555+ แม่มักห้ามไม่ทัน เด็กบางคนอมมือไม่พอ เอาเท้าขึ้นมาอมด้วยอีก ดังนั้นการช่วยป้องกันโรคที่ดีที่สุด คือการล้างมือค่ะ และไม่คลุกคลีเด็กป่วย เช่น เพื่อนลูกป่วย เราก็ไม่ต้องพาลูกเราไปเยี่ยมก็ได้ เป็นต้นค่ะ

หัดกุหลาบ หรือส่าไข้ ไม่ใช่โรคร้ายแรงน่ากลัวค่ะ สำคัญที่การดูแลลูกขณะมีไข้ และสุขอนามัย เช่นการล้างมือ หลายโรคติดจากการเอามือไม่สะอาดเข้าปาก ขยี้ตา หรือแคะจมูก ดังนั้นการล้างมือจึงเป็นวิธีง่ายๆที่ช่วยปกป้องลูกให้ห่างจากโรคภัยได้ดีที่สุดนะคะ

บทความโดย: พญ.พรนิภา ศรีประเสริฐ (กุมารแพทย์)

ติดตามเรื่องเด็กๆ by หมอแอม ตอบทุกปัญหาเกี่ยวกับเด็ก
ในรูปแบบ VDO "ทุกวันพฤหัสบดี" ได้ที่ ช่อง youtube : Mamaexpert official