พ่อแม่ใจสลายฝากลูก 6 เดือน เสียชีวิตคาเนอสเซอรี่

24 November 2015
1044 view

พ่อแม่พรั่งพรูปานจะขาดใจ ลูกชายวัยแบเบาะแค่ 6 เดือน ขาดใจเสียชีวิตอย่างปริศนา หลังพาไปฝากเลี้ยงที่เนอสเซอรี่ ด้าน “พี่เลี้ยงเด็ก” ตื่นตระหนก ชี้ให้นมกินตามปกติ ตำรวจเร่งส่งศพชันสตรหาสาเหตุ วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน 2558 เวลา 16:26 น. เมื่อวันที่ 24 พ.ย. นายวงกต มั่นสุข อายุ 22 ปี อาชีพช่างไฟฟ้า และ น.ส.ศลิษา ทรงศรี อายุ 23 ปี ภรรยา พนักงานร้านสะดวกซื้อ ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับทาง พ.ต.ท.วชิระชัย พันธ์ทอง พนักงานสอบสวน สน.บางชัน หลัง ด.ช.ธีรเดช ทรงศรี หรือน้องตะวัน ลูกชาย อายุ 6 เดือน ที่นำไปฝากเลี้ยงไว้ที่เนอสเซอรี่แห่งหนึ่งย่านคลองสามวา ได้เสียชีวิตลงอย่างเป็นปริศนา



พ่อแม่ใจสลายฝากลูก 6 เดือน เสียชีวิตคาเนอสเซอรี่

โดย นายวงกต พ่อของเด็ก ให้การทั้งน้ำตาว่า ในทุกวันตนและภรรยาจะออกไปทำงานตั้งแต่เช้า แล้ว นางนิชา ดำดี แม่ยายของตนจะเป็นผู้นำน้องตะวันไปส่งไว้ที่เนอสเซอรี่ดังกล่าว จากนั้น หลังเลิกงานตนจะมารับตัวลูกกลับในเวลา 16.00 น. ของทุกวัน มาเป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้ว ซึ่งวันนี้ก่อนเกิดเหตุในช่วงเช้า ตนยังได้หยอกล้อเล่นกับลูกชายตามปกติ ซึ่งเด็กก็ดูแข็งแรงดี กระทั่งเวลาประมาณ 10.30 น. น.ส.กันยารัตน์ จินดา พี่เลี้ยงผู้ดูแลเด็กก็ได้โทรศัพท์แจ้งว่า น้องตะวัน อาการไม่ค่อยดี ไม่มีแรง และเนื้อตัวอ่อนแรง ตนจึงรีบเดินทางไปดู และนำส่ง รพ.นพรัตน์ราชธานี เป็นการด่วน แต่เมื่อถึง รพ. พบว่าเด็กไม่หายใจแล้ว แพทย์จึงปั้มหัวใจเป็นเวลากว่า 30 นาที แต่ไม่เป็นผล น้องตะวันได้เสียชีวิตลง

พ่อแม่ใจสลายฝากลูก 6 เดือน เสียชีวิตคาเนอสเซอรี่

 

ด้าน น.ส.กันยารัตน์ พี่เลี้ยงของน้องตะวัน ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนให้น้องตะวันนอนดื่มนมขวดตามอยู่ในเปลนอนตามปกติ เมื่อขวดแรกหมดจึงเดินไปชงนมขวดที่สอง แต่เมื่อเดินกลับมาเห็นน้องตะวันไม่มีอาการตอบสนอง จับแขนขาแล้วรู้สึกเหมือนอ่อนแรง จึงรีบแจ้งทางบ้านของเด็กให้รับทราบก่อนช่วยกันพาไป รพ. ขณะที่ พ.ต.ท.วชิระชัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบร่างกายเด็กเบื้องต้นไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้าย แต่พบร่องรอยแผลเป็น ลักษณะคล้ายเกิดจากตุ่มใส จากการสอบสวนทราบว่าเด็กเพิ่งหายป่วยจากโรคอีสุกอีใสได้ไม่นาน อย่างไรก็ตามได้ส่งตัวเด็กไปผ่าชันสูตรที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป.

ขอบคุณข่าว : เดลินิวส์

  • No tag available